19 พ.ค. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 2 คน จากนราธิวาสที่สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,033 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 56 คน รักษาหายสะสม 2,857 คน ชี้ไทยเริ่มดีอันดับ 70 ของโลก จับตา 'ฝรั่งเศส' คลายล็อกเปิดเรียน 1 สัปดาห์ป่วยในสถานศึกษา 70 คน

19 พ.ค. 2563 Thai PBS รายงานว่านพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 ว่า มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2 คน ผู้ป่วยสะสม 3,033 คน คนรวมหายป่วยกลับบ้านแล้ว 2,857 คน เสียชีวิตรวม 56 คน รักษาตัวในโรงพยาบาล 120 คน

ผู้ป่วยใหม่ 2 คนมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าที่จ.นราธิวาส เป็นหญิงอายุ 36 ปี ลูกสาว และชายอายุ 42 ปี ลูกเขย โดยเข้ารับการตรวจเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา

“ทั้ง 2 คนไปเฝ้าพ่อ ป่วยเป็นปอดอักเสบเข้ารับการรักษา โดยรับการตรวจวันที่ 8 พ.ค.ไม่พบเชื้อ มาตรวจพบเชื้ออีกครั้งหนึ่ง วันที่ 14 พ.ค.อาศัยในบ้าน 2 คน ไม่มีผู้สัมผัสใกล้ชิดรายอื่น”

เข้าตรวจ 1,585 คน พบติดเชื้อ COVID-19

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า จากการวิเคราะห์สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ข้อมูลถึง 18 พ.ค.นี้ พบมีตัวเลข 3,031 คน อันดับแรกมาจากกลุ่มที่เข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,585 คน คิดเป็นร้อยละ 52 รองลงมากลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิด 1,183 คนคิดเป็นร้อยละ 39 ส่วนผู้ที่อยู่ในสถานกักกันที่รัฐบาลจัดไว้ (state quarantine) 100 คน คิดเป็นร้อยละ 3 นอกจากนี้ ผู้ที่อยู่ในศูนย์กักกัน จำนวน 65 คน คิดเป็นร้อยละ 2 การค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม 55 คน คิดเป็นร้อยละ 2 กลุ่มผู้ป่วยช่องทางเข้า-ออกประเทศ 40 คน คิดเป็นร้อยละ 2

ขณะนี้มีการปรับนิยามของผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค (PUI) ให้ผู้ที่มีอาการน้อย และสงสัยว่าจะติดเชื้อ เข้าไปรับการตรวจที่โรงพยาบาลของภาครัฐและภาคเอกชนที่มีประมาณ 100 แห่ง

“ขณะนี้คนไทยตื่นตัวในการเข้าโรงพยาบาล เข้ารับการตรวจหาเชื้อ COVID-19 หากเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคจะไม่เสียค่าใช้จ่าย”

ฝรั่งเศส เด็กติดเชื้อ 70 คนหลังโรงเรียนเปิด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อ COVID-19 สะสม 4,800,000 คน เสียชีวิต 320,000 คน สหรัฐอเมริกา ติดเชื้อสะสมมากที่สุด 1,500,000 คน ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 70 ของโลก ซึ่งลำดับลงมาเรื่อยๆนับตั้งแต่มีการระบาด

นอกจากนี้จีนพบผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่ม 5 คน ที่เมืองจี๋หลิน โดยทางการเร่งควบคุมโรค โดยเฉพาะชายแดนเชื่อมต่อเกาหลีเหนือ และรัสเซีย ขณะที่ ทางการเกาหลีใต้ เผยควบคุมการระบาดในสถานบันเทิงอิแทวอนได้แล้ว เนื่องจากติดตามกลุ่มเสี่ยงอย่างรวดเร็ว เมื่อวานนี้พบผู้ป่วยเพิ่ม 13 คน ซึ่งเป็น 2 วันที่ตัวเลขต่ำกว่า 20 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับความเคลื่อนไหวต่างประเทศ พบว่าที่ฝรั่งเศสภายหลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เปิดสถานศึกษาราว 40,000 แห่ง ภายในสัปดาห์เดียว หลังจากคลายล็อกให้ 1 ใน 3 ของเด็กนักเรียนกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ รัฐมนตรีศึกษาของฝรั่งเศส ออกมาระบุว่า มีสัญญาณเตือนการระบาดของ COVID-19 ในสถานศึกษาแล้ว หลังพบผู้ติดเชื้อ 70 คนโดยยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้ติดเชื้อเป็นนักเรียนหรือครู

“ฝรั่งเศสพบการติดไวรัส COVID-19 จำนวน 70 คน หลังเปิดเรียนใหม่ มีรายงานว่าโรงเรียนทางเหนือของฝรั่งเศสปิดการเรียนการสอนแล้ว 7 แห่ง กรณีนี้ไทยอาจจะต้องดูชุดข้อมูลนี้”

ไทยชนะ ลงทะลุ 3.6 ล้านคน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับการลงแพลตฟอร์ม www.ไทยชนะ.com มียอดการลงทะเบียนร้านค้าแล้ว 60,853 แห่ง ผู้ใช้งานรวม 3,660,081 คน เช็กอิน 5,562,344 คน เช็กเอ้าท์ 4,052,259 ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ กทม. ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี

“ยืนยันไทยชนะ เพื่อควบคุมป้องกันโรคเท่านั้น ชุดข้อมูลจะอยู่ในระบบ 60 วัน ซึ่งหากไม่ได้มีการติดเชื้อ ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ก็จะถูกลบออกไปไม่ได้ใช้ประโยชน์อื่นๆ”

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ตอนนี้ประเทศไทยสามารถลดตัวเลขจาก 3 หลักในช่วงที่กราฟพุ่งขึ้นไปสูงในเดือนมี.ค.จนต้องมีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และประกาศเคอร์ฟิว รวมทั้งงดกิจกรรมในสถานที่เสี่ยงต่างๆ จนกระทั่งตัวเลขลดลงมาเหลือตัวเลขหลักเดียว ถ้าการ์ดไม่ตก เชื่อว่าในระยะ 14 วัน ก็จะผ่านไปโดยเร็ว ก็จะทำให้กลับไปมีกิจกรรมต่างๆ กลับไปเหมือนเดิม แต่ต้องขอความร่วมมือกับทุกคน

สถานบันเทิง ยังลุ้นไม่ได้เปิดต่อ

ส่วนคำถามว่าว่าธุรกิจด้านสถานบันเทิง จะสามารถกลับมาเปิดบริการได้ในการผ่อนปรนระยะที่ 4 ในเดือนมิ.ย.ได้หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นในต่างประเทศทำให้ทางศบค. เกิดความกังวล เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระบาดของเชื้อ หากทุกคนดูแลตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อลงได้ การ์ดไม่ตก ทุกอย่างจะกลับมาสู่กิจการกิจกรรมได้เหมือนเดิม แต่ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่หรือ ที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องมีการดีไซน์ร้านให้ปลอดภัย

กราฟแตะพื้นลงไปเรื่อยๆ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ต้องอยู่ในชีวิตวิถีใหม่ คือมีหน้ากากอนามัยตลอด และมีการออกแบบร้านที่ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้บริการ