ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.2563 ต่ำสุดรอบ 11 ปี จาก COVID-19

กองบรรณาธิการ TCIJ 21 พ.ค. 2563 | อ่านแล้ว 2001 ครั้ง

ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน เม.ย.2563 ต่ำสุดรอบ 11 ปี จาก COVID-19

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เดือน เม.ย. 2563 อยู่ที่ระดับ 75.9 ปรับตัวลดลงจากระดับ 88.0 ในเดือน มี.ค. ต่ำสุดในรอบ 11 ปี เหตุกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

Thai PBS รายงานเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมาว่านายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่าผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมประจำเดือน เม.ย. 2563 อยู่ที่ระดับ 75.9 ปรับตัวลดลงจากระดับ 88.0 ในเดือน มี.ค. เป็นค่าดัชนีฯ ต่ำสุดในรอบ 11 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย.2552 โดยเป็นการปรับตัวลดลงในทุกขนาดของอุตสาหกรรมทั้งขนาดย่อม ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยมีสาเหตุจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มาตรการล็อกดาวน์ เพื่อควบคุมโรคระบาดของภาครัฐ ส่งผลให้การใช้จ่ายและการบริโภคลดลงโดยเฉพาะสินค้าคงทน

ขณะที่ผู้ประกอบการบางรายชะลอการผลิต การลงทุน และลดการจ้างงาน อีกทั้งยังประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง เนื่องจากขาดเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้งที่มีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อรายได้และกำลังซื้อในภาคเกษตร

จากการสำรวจผู้ประกอบการ 1,102 ราย ครอบคลุม 45 กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วประเทศในเดือน เม.ย.2563 พบว่าผู้ประกอบการร้อยละ 69.5 มีความกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ที่กระจายไปทั่วโลก ส่งผลให้คำสั่งซื้อต่างประเทศลดลง

นายสุพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีความกังวลลดลง ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ร้อยละ 44.9, อัตราแลกเปลี่ยน (บาทต่อดอลลาร์) ในมุมมองผู้ส่งออก ร้อยละ 39.2, ราคาน้ำมัน ร้อยละ 29.7 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 17.9

ส่วนดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวลดลง อยู่ที่ระดับ 88.8 โดยลดลงจาก 96.0 ในเดือน มี.ค. โดยค่าดัชนีฯ ต่ำที่สุด ตั้งแต่เดือน พ.ค.2552 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความกังวลต่อการประกอบกิจการในอนาคตที่มีความไม่แน่นอนสูง จากปัญหาเศรษฐกิจโลกและเศรฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวลงภายหลังจากการระบาดของ COVID-19 ที่มีความรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้างไปทั่วโลก และยังไม่แน่ชัดว่าวิกฤต COVID-19 จะสิ้นสุดเมื่อใด

สำหรับสิ่งที่ ส.อ.ท.ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นในภาคธุรกิจ คือ 1.ขอให้พิจารณาคืนเงินประกันไฟฟ้าให้กับธุรกิจ SMEs ที่ใช้มิเตอร์ขนาดไม่เกิน 50 แอมป์ เพื่อนำมาใช้หมุนเวียนในกิจการช่วงวิกฤต COVID-19 และ 2.ขอให้กรมสรรพากรยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่ SMEs ในทุกธุรกิจ เป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่ปีภาษี 2563-2565

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: