กพช.ไฟเขียวเกณฑ์ใหม่โรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากนำร่อง 150 เมกะวัตต์ใช้วิธีประมูลแข่งขันราคา คาดเปิดขายเอกสาร ม.ค. 2564 รู้ผลผู้ชนะ มี.ค. 2564 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2566 | ที่มาภาพประกอบ: Industry Tap
Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2563 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2563 ว่าที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน ตามมติของคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 โดยให้นำร่องโครงการเป้าหมาย 150 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นชีวมวล 75 เมกะวัตต์ และก๊าซชีวภาพ 75 เมกะวัตต์
สำหรับชีวมวลกำหนดปริมาณไฟฟ้าเสนอขายไม่เกิน 6 เมกะวัตต์ต่อโครงการและก๊าซชีวภาพ (พืชพลังงาน ผสมน้ำเสีย/ของเสีย ≤ 25 %) ไม่เกิน 3 เมกะวัตต์ต่อโครงการ
ทั้งนี้คาดว่าจะเปิดขายเอกสารให้ผู้ที่สนใจได้ในเดือน ม.ค. 2564 และให้ยื่นข้อเสนอ ในเดือน ก.พ. 2564 และ รู้ผลผู้ชนะประมูลภายในเดือน มี.ค. 2564 มีกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (SCOD) ภายใน 36 เดือน นับถัดจากวันลงนามในสัญญาฯ ให้เปิดรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) แบบแข่งขันทางด้านราคา โดยเพดานราคารับซื้อในส่วน ชีวมวล ที่เสนอขายมากกว่า 3 เมกะวัตต์ อยู่ที่ 4.2636 บาทต่อหน่วย และน้อยกว่า 3 เมกะวัตต์ อยู่ที่ 4.8482 บาท ต่อหน่วย ส่วน ชีวภาพ เพดานอยู่ที่ 4.2 บาทต่อหน่วย
โดยให้ภาคเอกชนเป็นผู้เสนอโครงการ สำหรับการแบ่งปันผลประโยชน์ อาทิ การให้หุ้นบุริมสิทธิ ร้อยละ 10 ให้กับวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน (ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องตามกฎหมาย) ซึ่งเป็นผู้ปลูกพืชพลังงานให้แก่โรงไฟฟ้า การให้ผลประโยชน์อื่น ๆ ให้โรงไฟฟ้าและชุมชนทำความตกลงกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เช่น ด้านการสาธารณสุข ด้านสาธารณูปโภค ด้านการศึกษา เป็นต้น
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ