ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ ลงมติเป็นเอกฉันท์จากคณะผู้พิพากษา 17 คน มีคำสั่งให้พม่าป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญาในประเทศด้วยอำนาจทั้งหมดที่มีของรัฐบาล หลังจากที่ประเทศแกมเบียในทวีปแอฟริกา ได้ยื่นฟ้องต่อศาลโลกในฐานะผู้แทนองค์การความร่วมมืออิสลาม เพื่อดำเนินมาตรการฉุกเฉินกับกองทัพพม่าให้สอบสวนอย่างเต็มรูปแบบ จากการปฏิบัติการปราบปรามในรัฐยะไข่ตั้งแต่ปี 2560 ส่งผลให้ชาวโรฮิงญากว่าหลายร้อยคนเสียชีวิต และกว่า 700,000 คนต้องอพยพไปยังบังกลาเทศ
อย่างไรก็ตามก่อนหน้าการตัดสิน นางออง ซาน ซูจี ในฐานะที่ปรึกษาพิเศษรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศพม่า เดินทางไปยังกรุงเฮกเพื่อให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาที่มีต่อพม่าและขอให้ศาลโลกยุติการตัดสินคดี เนื่องจากมีความไม่สมบูรณ์และความไม่ถูกต้อง (อ่านเพิ่มเติมที่: ซูจีแจงศาลโลกไม่มีเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญาชี้ข้อกล่าวหาแกมเบียหลงผิด-ไม่ครบถ้วน) โดยคำตัดสินดังกล่าวสวนทางกับความต้องการของรัฐบาลพม่า แต่ในความเป็นจริงศาลโลกไม่มีช่องทางใดที่จะบังคับใช้กับพม่าได้
นอกจากนี้มาตราการที่ศาลโลกออกคำสั่งนั้นครอบคลุมการป้องกันการสังหารและก่ออันตรายอย่างร้ายแรงทั้งทางกายและจิตใจต่อชาวโรฮิงญา รวมถึงการเริ่มการเก็บหลักฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นมาแล้ว โดยที่รัฐบาลพม่าควรต้องรายงานกลับมายังศาลโลกภายใน 4 เดือนด้วย
ที่มาข่าวและภาพประกอบ: Human Rights Watch, 23/1/2020
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ