รฟท. เผยจัดทำร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ 'เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ' ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) กรอบวงเงิน 85,345 ล้านบาท เปิดประกวดราคาได้ในเดือน พ.ย. 2563 และให้เวลาจัดทำรายละเอียดข้อเสนอประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะสามารถคัดเลือกผู้ดำเนินการได้ประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค. 2564 | ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานเมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2563 ว่านายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การจัดทำร่างเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โครงการรถไฟทางคู่สายใหม่ "เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ" ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) กรอบวงเงิน 85,345 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ต.ค. 2563 นี้ หลังจากนั้นจะเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างขอบเขตงานประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ประมาณ 1 เดือน ก่อนจะเปิดขายเอกสารประกวดราคาได้ในเดือน พ.ย. 2563 และให้เวลาจัดทำรายละเอียดข้อเสนอประมาณ 1 เดือน โดยคาดว่าจะสามารถคัดเลือกผู้ดำเนินการได้ประมาณเดือน ก.พ.-มี.ค. 2564
ส่วนรถไฟทางคู่สายใหม่ "บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม" ระยะทาง 355 กม. กรอบวงเงิน 66,848.33 ล้านบาท จะประกาศ TOR ได้ประมาณเดือนพ.ย. หรือหลังจากสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ประมาณ 1 เดือน ซึ่งตามขั้นตอน e-bidding หลังสรุปการประมูลแล้ว รฟท. เสนอคณะกรรมการ รฟท.อนุมัติ เพื่อลงนามในสัญญากับผู้รับงาน
ทั้งนี้ รฟท.ได้เสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนทั้ง 2 สายทาง เพื่อให้สามารถเข้าพื้นที่ได้ตามกฎหมาย และ รฟท.จะประสานแผนการส่งมอบพื้นที่กับผู้รับจ้าง เพื่อออกหนังสือเริ่มงานก่อสร้าง หรือ NTP ต่อไป
สำหรับรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มีค่าก่อสร้างงานโยธาระบบอาณัติสัญญาณอยู่ที่ 72,921 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษา 1,764 ล้านบาท ค่าเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ 10,660 ล้านบาทแบ่ง 3 สัญญา ได้แก่ 1. ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม.วงเงิน 26,704 ล้านบาท 2. ช่วงงาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กม. วงเงิน 28,735 ล้านบาท และ 3. ช่วงเชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กม. วงเงิน 17,482 ล้านบาท
ส่วนรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มีค่าก่อสร้างงานโยธาและระบบอาณัติสัญญาณ 55,462 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษา 1,131 ล้านบาท และค่าเวนคืน 10,255.33 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 2 สัญญา ช่วงบ้านไผ่-ร้อยเอ็ด และช่วงยโสธร-นครพนม มีค่าเวนคืน 10,255.33 ล้านบาท
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ