ธปท.ขยายโครงการพัฒนาระบบต้นแบบการชำระเงิน โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางไปสู่ภาคธุรกิจเอกชนเป็นครั้งแรก เตรียมเริ่มต้นทดสอบในเดือน ก.ค.2563 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 | ที่มาภาพประกอบ: ธนาคารแห่งประเทศไทย
Thai PBS รายงานเมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมาว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศโครงการพัฒนาระบบต้นแบบการชำระเงิน โดยใช้สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (Central Bank Digital Currency: CBDC) ร่วมกับภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเป็นการต่อยอดการพัฒนาจากโครงการอินทนนท์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้และแนวทางในการเชื่อมต่อ CBDC กับนวัตกรรมที่พัฒนาโดยภาคเอกชน
ประเดิมกลุ่ม SCG และคู่ค้า
ธปท.เห็นความสำคัญและสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการเงิน เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันและความพร้อมของภาคธุรกิจที่เข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งโครงการนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการนำ CBDC ไปเชื่อมสู่ภาคธุรกิจที่มีขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่กว้างขึ้น ในการทดสอบ CBDC จะถูกเชื่อมต่อกับระบบการบริหารการจัดซื้อและการชำระเงินระหว่าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กับคู่ค้า (Suppliers) ในห่วงโซ่อุปทาน โดยมีบริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบดังกล่าวร่วมทดสอบ
เริ่มต้นทดสอบในเดือน ก.ค.นี้
โดย ธปท.คาดหวังว่าระบบต้นแบบการชำระเงินนี้จะรองรับนวัตกรรมทางการเงินของภาคธุรกิจที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการชำระเงิน เช่น มีความยืดหยุ่นในการโอนเงินมากขึ้น เพิ่มความเร็วและความคล่องตัวในการชำระเงินระหว่างกัน การทดสอบดังกล่าวจะเริ่มต้นในเดือน ก.ค.2563 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2563 ซึ่ง ธปท.จะเผยแพร่ผลการทดสอบและแนวทางการดำเนินงานต่อไป
ผ่านการทดสอบกับ "ฮ่องกง"
นอกจากนี้ โครงการอินทนนท์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง ธปท. และสถาบันการเงิน 8 แห่ง ที่ร่วมกันศึกษาและทดสอบการใช้สกุลเงินดิจิทัลในการชำระเงินระหว่างธนาคาร (Wholesale CBDC) ได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วงแล้ว รวมทั้งได้ทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศ ร่วมกับธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority: HKMA) เสร็จสิ้นในเดือน ม.ค.2563 ปัจจุบัน ธปท. และ HKMA ร่วมกับสถาบันการเงินสมาชิก อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อขยายขอบเขตการทดสอบการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยใช้ CBDC ซึ่งจะมีการประกาศในรายละเอียดต่อไป
เปิดกว้างภาคธุรกิจร่วมพัฒนา
ธปท.เชื่อมั่นว่ากระบวนการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินร่วมกับภาคธุรกิจเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเตรียมเข้าสู่โลกดิจิทัลทางการเงินในอนาคต โดย ธปท.ยังคงเปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจที่สนใจร่วมพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อนำไปสู่การใช้ประโยชน์ในวงกว้างต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ