กรมธุรกิจพลังงานเผยยอดคาดการณ์ใช้ดีเซล B10 จะโตก้าวกระโดดจาก 0.1 ล้านลิตร/วัน เมื่อปี 2562 เพิ่มเป็น 22.5 ล้านลิตร/วัน เมื่อสิ้นไตรมาส 1/2563 และจะขยับเพิ่มเป็น 57 ล้านลิตร/วัน เมื่อสิ้นปี 2563 | ที่มาภาพประกอบ: Energy News Center
Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 ว่านางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่าตัวเลขการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลเกรดพื้นฐานที่กระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริม และเริ่มจำหน่ายมาตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.2562 ประเมินว่าจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 0.1 ล้านลิตรต่อวัน เพิ่มเป็น 22.5 ล้านลิตรต่อวัน ณ สิ้นไตรมาสแรกปี 2563 และขยับเพิ่มเป็น 57 ล้านลิตรต่อวัน เมื่อสิ้นปี 2563
การประเมินตัวเลขของกรมธุรกิจพลังงานมาจากการที่ปั๊มน้ำมันทุกแบรนด์ ทุกค่าย ประมาณ 3 พันแห่ง แจ้งความพร้อมที่จะเพิ่มจำนวนหัวจ่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ให้มากขึ้น โดยในปั๊มขนาดเล็กที่เคยจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 และมีหัวจ่ายน้ำมันไม่มาก อาจจะเลิกจำหน่ายดีเซลหมุนเร็ว B7 ไปเลยและเปลี่ยนมาจำหน่ายดีเซลหมุนเร็ว B10 แทน
นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีรถยนต์เก่าค่ายยุโรปที่เคยใช้ดีเซลหมุนเร็ว B7 จะเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้ดีเซลหมุนเร็ว B10 มากขึ้นเนื่องจากรัฐยังคงนโยบายส่วนต่างราคาที่ถูกกว่าดีเซลหมุนเร็ว B7 ลิตรละ 2 บาท ตลอดทั้งปี 2563 รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ของผู้ค้าน้ำมันที่จะทำให้ผู้ใช้มีความเชื่อมั่นในน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10
นางสาวนันธิกา กล่าวว่าการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B10 ยังจะช่วยให้ราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4 บาทต่อกิโลกรัม และยังมีส่วนช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ด้วย
สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันของปี 2562 (ม.ค.-ธ.ค. 2562) เทียบกับปี 2561 ยังคงเติบโตขึ้น โดยกลุ่มน้ำมันเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 32.2 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 กลุ่มดีเซลหมุนเร็ว เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 64.4 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.8 น้ำมันอากาศยานเจท A1 เฉลี่ยอยู่ที่ 19.3 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 0.8
ส่วนการใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 17.8 ล้านกก./วัน ลดลงจากปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.2 แต่เมื่อพิจารณาปริมาณการใช้แยกประเภท พบว่าการใช้ LPG ในภาคปิโตรเคมีมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.4 ล้านกก./วัน คิดเป็นร้อยละ 7.9 แต่การใช้ในประเภทอื่นๆ มีปริมาณการใช้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ปีก่อน โดยภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 5.8 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 1.8 ภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้อยู่ที่ 1.8 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 3.9 และ ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด มีปริมาณการใช้อยู่ที่ 2.8 ล้านกก./วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 12.6
การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.4 ล้านกก./วัน ลดลงจากปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 11.7 โดยมีสาเหตุมาจากการปรับราคา NGV สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไปให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ทำให้ประชาชนและรถบรรทุกสินค้าหันไปใช้ดีเซลหมุนเร็วบี 20 ทดแทน ส่งผลให้สถานีบริการ NGV นอกแนวท่อทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ