สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เตรียมออกมาตรฐาน 'ความปลอดภัยในโรงเรียน' เพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแก่นักเรียน บุคลากรภายในโรงเรียน และผู้เกี่ยวข้อง เช่น อันตรายจากการที่ครูแอบทำร้ายเด็ก อันตรายจากสนามเด็กเล่น สนามกีฬา เพลิงไหม้ในห้องครัว อุบัติเหตุและอุปกรณ์ภายในห้องเรียน | ที่มาภาพประกอบ: มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย
สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2563 ว่านายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวสถานศึกษาหลายแห่งมีการทำร้ายเด็กนักเรียน หรือบางครั้งมีเด็กนักเรียนได้รับอันตรายจากการเล่นเครื่องเล่นในโรงเรียน ฯลฯ สมอ. จึงเตรียมประกาศมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยในโรงเรียน เพื่อให้สถานศึกษาได้นำไปใช้ในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยภายในโรงเรียนให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อดูแลนักเรียนและลดปัญหาดังกล่าว โดยข้อกำหนดในมาตรฐานอ้างอิงมาจากมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก คือ มาตรฐานระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (ISO 45001) และหลักเกณฑ์และแนวทางการบริหารความเสี่ยง (ISO 31000) สามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกโรงเรียน ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งบอร์ดได้เห็นชอบมาตรฐานดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2563 ที่ผ่านมา คาดว่าจะประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวได้ภายในเดือน ม.ค. 2564 นี้
มาตรฐานฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และสมาคมอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน ครอบคลุมในด้านการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยภายในโรงเรียน และการควบคุมความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากอุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ รวมถึงสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บและการเจ็บป่วย รวมทั้งโรคติดต่อ เพื่อให้นักเรียน และบุคลากร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความปลอดภัยสูงสุด โดยใช้หลักการประเมินความเสี่ยงมาใช้ในการวางแผนเพื่อลดความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นแก่นักเรียน บุคลากรภายในโรงเรียน และผู้เกี่ยวข้อง เช่น อันตรายจากการที่ครูแอบทำร้ายเด็ก อันตรายจากสนามเด็กเล่น สนามกีฬา เพลิงไหม้ในห้องครัว อุบัติเหตุและอุปกรณ์ภายในห้องเรียน
การจัดการเมื่อเกิดโรคระบาด การตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้บริหารสถานศึกษาจะต้องเป็นผู้นำและแสดงความมุ่งมั่นในการจัดการด้านความปลอดภัยภายในโรงเรียน มีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน จัดหาทรัพยากรให้เพียงพอ มีการอบรมให้ความรู้ รวมทั้งสื่อสารข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับอันตราย กฎระเบียบ และข้อควรปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับการจัดการด้านความปลอดภัยให้กับนักเรียน บุคลากร ผู้รับเหมา และบุคคลภายนอกที่มาใช้บริการ เกิดความเข้าใจและสามารถปฏิบัติได้ รวมถึง การควบคุมความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดซื้อ จัดจ้างผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ ในโรงเรียนด้วย เช่น การจัดซื้อสารเคมีต้องเลือกซื้อชนิดที่มีความปลอดภัย เครื่องเล่น อุปกรณ์สนามต้องปลอดภัยได้มาตรฐาน รวมถึงมีการเตรียมความพร้อมและการดำเนินการเกี่ยวกับภาวะฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นในโรงเรียนได้
เลขาธิการ สมอ. กล่าวว่า เมื่อโรงเรียนมีการจัดการด้านความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานแล้ว สามารถประกาศรับรองตนเอง หรือจะให้หน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมครูและผู้ปกครอง เป็นผู้รับรอง หรือจะให้หน่วยรับรอง (certification body) รับรองก็ได้ เพื่อยกระดับการจัดการด้านความปลอดภัยของโรงเรียนให้เป็นที่ยอมรับของสังคมและสากลทั่วไป นอกจากนี้ สมอ. ยังได้เตรียมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักการศึกษา กทม. เพื่อร่วมกันผลักดัน และหาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการส่งเสริม และสนับสนุนให้โรงเรียนดำเนินการตามมาตรฐานการจัดการด้านความปลอดภัยในโรงเรียนต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ