ข้อมูลจากคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) พบปลายปี 2563 จากการตรวจสอบโรงเรียนนอกระบบที่มีสถานะรอตรวจสอบและอยู่ระหว่างรอเลิกกิจการ พบเข้าข่ายถูกเพิกถอนใบอนุญาตทั้งสิ้น 2,421 แห่ง | ที่มาภาพประกอบ: 1778011 (Pixabay License)

เว็บไซต์ไทยโพสต์ รายงานเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2563 ว่านายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาฯ กช.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) ที่มีนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธาน ที่ประชุมได้มีการรายงานเรื่อง การตรวจสอบโรงเรียนนอกระบบที่มีสถานะรอตรวจสอบ และอยู่ระหว่างรอเลิกกิจการ ซึ่งเข้าข่ายถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีทั้งสิ้น 2,421 โรง ซึ่ง สช.ได้ดำเนินการส่งหนังสือให้ยืนยันการเปิดโรงเรียน โดยขณะนี้มีโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่ยืนยันว่าจะดำเนินการต่อไป มี 17 โรง เลิกกิจการ 18 โรง ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการขอเลิกกิจการที่ฝ่ายกฎหมายของ สช.กำลังดำเนินการ ทั้งนี้ตนได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ที่ประมาณการมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 3,780,375 บาท จำแนกเป็น จังหวัดนครศรีธรรมราช 62 โรง มูลค่า 2,667,900 บาท ปัตตานี 13 โรง มูลค่า 1,092,475 บาท และพัทลุง 1 โรง มูลค่า 20,000 บาท ซึ่ง สช.จะดำเนินการตามกระบวนการของบประมาณกลางจากรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือโรงเรียนกลุ่มนี้

“นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้มีการทบทวนการปรับอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชนให้เกิดความเท่าเทียม รวมถึงให้มีการคำนวณอัตราครูต่อนักเรียนด้วย เนื่องจากจะใช้เหมือนกับเด็กปกติไม่ได้ รวมทั้งให้พิจารณาทบทวนขอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนตามโครงการเรียนฟรี 15 ปี ให้คำนวณของเด็กพิการเป็นการเฉพาะ และในส่วนของอุปกรณ์การเรียนก็ให้ขอตามกระบวนการขอสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีการจัดสรรให้นักเรียนพิการอยู่แล้ว คนละ 2,000 บาท แต่ที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนยังไม่ได้รับการสนับสนุน ซึ่งคงต้องดำเนินการตามพ.ร.บ.คนพิการต่อไป”เลขาฯ กช.กล่าว