รณรงค์ออนไลน์ผ่าน change.org ยกเลิกระเบียบบังคับนักศึกษาข้ามเพศให้ขอใบรับรอง ‘โรคจิตสลับเพศ’ เพื่อขอเข้ารับปริญญา | ที่มาภาพ: change.org

5 พ.ย. 2564 Nada Chaiyajit ผู้ใช้เว็บ change.org ได้ทำการรณรงค์ออนไลน์เรื่อง 'ยกเลิกระเบียบบังคับนักศึกษาข้ามเพศให้ขอใบรับรอง ‘โรคจิตสลับเพศ’ เพื่อขอเข้ารับปริญญา' โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

จากกระแสสังคมที่วิจารณ์ถึงประกาศของโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาสำหรับนิสิตที่สำเร็จการศึกษาในปี 2561 และ 2562 ที่มีความประสงค์จะแต่งกายให้ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศสภาพของตน โดยปรากฏข้อความที่เขย่าสามัญสำนึกของสังคมว่า “นิสิตที่เป็นจิตสลับเพศ หากต้องการขอแต่งกายสลับเพศ สามารถติดต่อเพื่อทำนัด ตรวจได้ที่คลินิกจิตเวช โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย” เพื่อเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในปี พ.ศ.2565 

ในฐานะที่นาดาเป็นคนทำงานด้านสุขภาพและสิทธิมนุษยชนของบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ นาดาสงสัยว่าทำไมยังมีมหาวิทยาลัยที่มีความคิดล้าหลังถึงขั้นนี้ แม้แต่ทางสมาคมเพศวิทยาคลินิกและเวชศาสตร์ (TACS) ซึ่งเป็นองค์กรของผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทางเพศยังออกมายืนยันด้วยอีกหนึ่งเสียง

• ประเด็นแรก: บุคคลที่มีอัตลักษณ์ทางเพศสภาพแตกต่างไปจากเพศกำเนิด ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่โรคที่เกี่ยวความผิดปกติทางจิตในการรับรู้เพศของตัวเอง เหมือนที่องค์การอนามัยโลกได้ถอดถอนภาวะโรคสลับเพศหรือ transsexualism ออกจากบัญชีจำแนกโรค แล้วเปลี่ยนไปใช้คำว่าการมีเพศสภาพไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิด หรือ Gender Incongruence
• ประเด็นสอง: การแสดงออกทางเพศสภาพ และการนิยามอัตลักษณ์ทางเพศ ไม่ใช่ภาวะความเจ็บป่วยทางจิต ไม่ใช่ภาวะทางจิตที่ต้องได้รับการยืนยันความจริงแท้ในเพศสภาพโดยจิตแพทย์ ความคิดเช่นนี้เป็นปัญหาและสร้างตราบาปต่อคนข้ามเพศ
• ประเด็นสุดท้าย: ตามหลักสิทธิมนุษยชน เรื่องการกำหนดเจตจำนงของบุคคล หรือ Right to Self-Determination มนุษย์ทุกคนตระหนักถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมถึงคนข้ามเพศที่เกิดและเติบโตมาด้วยศักยภาพที่จะรู้ได้ว่า ตัวเองนั้นมีอัตลักษณ์ทางเพศแบบใด แม้ว่ามันจะไม่สอดคล้องกับเพศกำเนิดก็ตาม 

นาดาจึงอยากขอเรียกร้องให้โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยพิจารณาบูรพาพิจารณายกเลิกระเบียบข้อบังคับที่ระบุให้นักศึกษาข้ามเพศขอใบรับรอง ‘โรคจิตสลับเพศ’ เพื่อทำเรื่องขอเข้ารับปริญญา และอยากชวนทุกคนที่เห็นด้วยร่วมกันลงชื่อสนับสนุนในแคมเปญนี้ช่วยกันส่งเสียงให้ดังไปถึงผู้บริหารของมหาวิทยาลัยฯ ให้แก้ไขระเบียบดังกล่าวโดยด่วน

คนข้ามเพศสามารถใช้ชีวิตและดำรงตนอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีโดยไม่ต้องให้ใครมาตีตราประทับรับรองเพศสภาพของตนฉันใด การเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรก็ดี หรือการแต่งกายในชีวิตประจำวันก็ดี ก็ไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องให้แพทย์มาให้การรับรองฉันนั้น