โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ชี้แจงมาตรการ Work From Home เพื่อป้องกันการระบาดของ COVID-19 ระลอกใหม่ที่ส่งผลให้ประชาชนซึ่งทำงานที่บ้านมีค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าสูงขึ้น เพราะภาครัฐยังไม่มีมาตรการช่วยลดค่าไฟฟ้าเช่นที่เคยดำเนินการเยียวยามาก่อนหน้านี้ และเป็นเพราะการคิดอัตราค่าไฟฟ้าแบบก้าวหน้า ที่คนใช้ปริมาณมากจ่ายในเรทที่แพงกว่าคนที่ใช้ไฟน้อย | ที่มาภาพ: Energy News Center
Energy News Center รายงานเมื่อช่วงปลายเดือน เม.ย. 2564 ว่านายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. ชี้แจงถึง มาตรการทำงานที่บ้าน (Work from home) ที่ภาครัฐประกาศขอความร่วมมือให้ข้าราชการและภาคประชาชนทำงานที่บ้านเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และส่งผลให้ประชาชนมีค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าที่สูงขึ้นกว่าช่วงก่อน Work From Home ว่าเป็นเพราะภาครัฐยังไม่ได้มีการกำหนดมาตรการออกมาช่วยเหลือค่าไฟฟ้าสำหรับประชาชน เช่นเดียวกับเมื่อครั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกแรกและระลอกที่สอง เนื่องจาก กกพ. ได้นำเงินในส่วนของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าไปช่วยลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนตามนโยบายการช่วยเหลือในครั้งแรกและครั้งที่สองไปจนหมดแล้ว ซึ่งหากจะมีนโยบายให้การช่วยเหลือในครั้งใหม่นี้ รัฐจะต้องจัดสรรเงินงบประมาณมาดำเนินการ
นอกจากนี้ในการคิดอัตราค่าไฟฟ้าในส่วนของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทครัวเรือน จะเป็นการคิดแบบอัตราก้าวหน้า คือยิ่งมีจำนวนหน่วยที่ใช้ไฟมาก ก็จะยิ่งต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้น เนื่องจากภาครัฐต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการประหยัดไฟฟ้า
อย่างไรก็ตาม ในส่วนประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าไม่ถึง 50 หน่วยต่อเดือน จะยังได้ใช้ไฟฟ้าฟรีตามนโยบายรัฐ ซึ่ง กกพ. ยังมีเงินจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่เป็นรายจ่ายประจำไปช่วยเหลือประมาณ 100 ล้านบาทต่อเดือน
อนึ่งนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ในครั้งแรก กกพ. ได้ใช้เงินเข้าไปช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าประชาชนระหว่าง เม.ย.-พ.ค. 2563 ไป เป็นจำนวน 26,612 ล้านบาท โดยเป็นเงิน Claw Back หรือ “เงินที่ กกพ. เรียกคืนมาจาก 3 การไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ลงทุนตามแผน” มาจ่ายทั้งหมด
ส่วนการแพร่ระบาดใหญ่ครั้งที่ 2 กกพ. ใช้เงินเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้ประชาชนประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงิน Claw Back ประมาณ 3,000 ล้านบาท และอีก 4,000 ล้านบาท เป็นเงินงบประมาณที่รัฐบาลเป็นผู้จัดสรร
ส่วนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 3 ล่าสุดนี้รัฐบาลยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือใด ๆ ออกมา เนื่องจากการ Work from home รอบนี้ไม่ได้เป็นการประกาศเคอร์ฟิว แต่เป็นการขอความร่วมมือจากประชาชนเท่านั้น
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ