กฟผ.-กรอ เร่งศึกษาแนวทางกำจัดซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่

กองบรรณาธิการ TCIJ 10 พ.ค. 2564 | อ่านแล้ว 2064 ครั้ง

กฟผ.-กรอ เร่งศึกษาแนวทางกำจัดซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการศึกษาแนวทางการจัดการซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ และพัฒนาต้นแบบโรงงานรีไซเคิลซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ของประเทศไทย" หวังเร่งศึกษาแนวทางกำจัดซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ | ที่มาภาพประกอบ: PV Solar Report

เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. 2564 สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่านางสาวจิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เผยว่า กฟผ. ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ "โครงการศึกษาแนวทางการจัดการซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ และพัฒนาต้นแบบโรงงานรีไซเคิลซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ของประเทศไทย" ร่วมกับ นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เพื่อร่วมกันศึกษาข้อมูลด้านเทคนิคการรีไซเคิลและเทคโนโลยีในการนำกลับโลหะมีค่าจากซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ ศึกษาและจัดทำหลักเกณฑ์การปฏิบัติและข้อเสนอแนะ การจัดการมลพิษจากกระบวนการผลิตสำหรับโรงงานฯ แนวทางการบริหารจัดการซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ในประเทศไทย เพื่อนำมาประกอบการศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาต้นแบบโรงงานบริหารจัดการซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ของประเทศไทย

นางสาวจิราพร กล่าวต่อไปว่า กรอ. และ กฟผ. มีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อส่งเสริมการจัดการซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี ซึ่งเป็นซากที่เกิดจากการใช้พลังงาน โดยก่อนหน้านี้ได้ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการศึกษาแนวทางบริหารจัดการซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ที่ได้ครบกำหนดอายุของบันทึกความร่วมมือ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2564

จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า การรีไซเคิลแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ในประเทศไทยยังคงมีความท้าทายอยู่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเก็บรวบรวม ปริมาณและความแตกต่างชนิดของซากที่จะส่งผลต่อเทคนิคในการรีไซเคิลและความคุ้มค่าการลงทุน ตลอดจนเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย ทำให้การพิจารณาเพื่อหาข้อสรุปในประเด็นต่าง ๆ จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และจะต้องมีการติดตามเทคโนโลยีในการรีไซเคิลที่ทันสมัยอยู่เสมอ จึงร่วม ลงนามความร่วมมือฉบับต่อเนื่องเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ทั้งนี้ ปัจจุบันเทคโนโลยีการรีไซเคิลหรือแนวทาง การจัดการกับแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่เริ่มความชัดเจนมากขึ้นและมีการดำเนินงานเชิงพาณิชย์แล้วในต่างประเทศ

สำหรับการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ทั้งสองหน่วยงานมีวัตถุประสงค์ในการร่วมกันศึกษาแนวทางการรีไซเคิลซากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ โดยการศึกษาในครั้งนี้จะมีการศึกษาเพิ่มเติมในรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี พื้นที่ตั้งโรงงานที่มีศักยภาพ ตลอดจนแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมกับ Ecosystem ของประเทศไทยเพื่อนำไปสู่การพัฒนาต้นแบบโรงงานรีไซเคิลแผงเซลล์แสงอาทิตย์และแบตเตอรี่ของประเทศในลำดับต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: