สื่อ 'Energy News Center' เผยการปรับราคารับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโซลาร์ภาคประชาชน จาก 1.68 บาทต่อหน่วยเป็น 2.20 บาทต่อหน่วยมีผลแล้วตั้งแต่ 1 ม.ค. 2564 ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อรับผลตอบแทนการลงทุนที่เพิ่มขึ้นได้ทันที | ที่มาภาพประกอบ: ที่มาภาพประกอบ: wikimedia.org
Energy News Center รายงานเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2564 ว่านายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยความคืบหน้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ปรับราคารับซื้อไฟฟ้า จาก 1.68 บาทต่อหน่วย เป็น 2.20 บาทต่อหน่วยระยะเวลา 10 ปีแล้ว โดยมีผลกับ ทั้งกลุ่มครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการไปแล้ว และผู้สมัครเข้าร่วมโครงการใหม่ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 โดยโครงการดังกล่าวจะมีปริมาณรับซื้อเบื้องต้น 50 เมกะวัตต์
ทั้งนี้โครงการโซลาร์ภาคประชาชนที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2562 และ 2563 ในอัตราค่าไฟฟ้าที่รับซื้อเดิม ที่ 1.68 บาทต่อหน่วยนั้น ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากประชาชน โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการประมาณ 400 ราย รวมกำลังการผลิตเพียง 3-4 เมกะวัตต์ เท่านั้น แต่เชื่อว่าการปรับราคารับซื้อเพิ่มเป็น 2.20 บาทต่อหน่วยจะทำให้มีผู้สนใจมากขึ้น โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดการสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่เว็บไซต์ของ PEA และ กฟน.
ในส่วนการรับซื้อไฟฟ้าโครงการโซลาร์เซลล์นำร่องปริมาณรับซื้อ 50 เมกะวัตต์ ที่กำหนดราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกิน ในอัตรา 1.00 บาทต่อหน่วย แบ่งเป็นกลุ่มโรงเรียน สถานศึกษา 20 เมกะวัตต์ กลุ่มโรงพยาบาล 20 เมกะวัตต์ และการสูบน้ำเพื่อการเกษตร 10 เมกะวัตต์ ตามมติ กพช. เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2563 นั้น ทาง กกพ.อยู่ระหว่างหารือกับการไฟฟ้านครหลวง และ PEA เพื่อออกระเบียบรับซื้อไฟฟ้าดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่เคยมีการรับซื้อไฟฟ้าโซลาร์เซลล์จากกลุ่มดังกล่าวมาก่อน ซึ่งมั่นใจว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2564 แน่นอน จากนั้นการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA และ กฟน.จะดำเนินการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการเป็นขั้นตอนต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ