ขยายระยะเวลาลดอัตราค่าธรรมเนียมแก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) 50% เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564-31 ธ.ค. 2566 บริษัทจำกัด 2,750 บาท ห้างหุ้นส่วนจำกัด 500 บาท
เมื่อช่วงต้นเดือน ม.ค. 2564 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจไทยต้องเข้มแข็งและแข่งขันได้ด้วยความมั่นคง โดยต้องมีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ไม่สูงเพื่อสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจ และที่สำคัญการติดต่อกับหน่วยงานราชการต้องมีความคล่องตัว จึงได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งพัฒนาการให้บริการของกรมฯ ในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการจดทะเบียนธุรกิจที่ต้องมีความสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ต้องลดภาระค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนของภาคธุรกิจลง กระทั่งเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่าธรรมเนียม ลดอัตราค่าธรรมเนียม และยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง และค่าธรรมเนียมอื่นที่เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด พ.ศ. 2563 เพื่อขยายระยะเวลาและเพิ่มส่วนลดอัตราค่าธรรมเนียมแก่ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่จดทะเบียนผ่านระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) จากเดิมลดให้ร้อยละ 30 เป็นลดให้ร้อยละ 50 เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564-31 ธ.ค. 2566
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคลผ่านทางระบบการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Registration จะเสียค่าธรรมเนียมที่ถูกลงกว่าครึ่งหนึ่งของการยื่นขอจดทะเบียนฯ แบบ walk in ที่มีค่าธรรมเนียม 5,500 บาท โดยการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทจำกัดผ่านระบบ e-Registration ในอัตราใหม่นี้จะมีค่าธรรมเนียมเหลือเพียง 2,750 บาท และห้างหุ้นส่วนจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียมเพียง 500 บาท การเปลี่ยนแปลง/การเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดมีอัตราค่าธรรมเนียม 250 บาทต่อ 1 ครั้ง”
สำหรับการลดอัตราค่าธรรมเนียมดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการปรับปรุงบริการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 ที่ให้ส่วนราชการพิจารณาทบทวนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมในการอนุมัติ อนุญาต ของทางราชการ ให้สอดคล้องกับต้นทุนของภาครัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นและประกอบธุรกิจแก่ผู้ประกอบการ เป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนผ่านระบบ e-Registration มากขึ้น ทั้งนี้ ด้วยระบบ e-Registration ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้ง เปลี่ยนแปลงฯ หรือเพิ่มทุนได้ง่าย ทุกที่ทุกเวลา โดยไม่มีเรื่องเวลา/สถานที่มาเป็นอุปสรรค ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อันเป็นการช่วยบรรเทาผลกระทบของผู้ประกอบการที่ได้รับจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในประเทศไทยและทั่วโลกยังคงมีสถานการณ์ที่รุนแรง
นอกจากนี้ แม้ว่าการลดอัตราค่าธรรมเนียมฯ ดังกล่าวอาจทำให้รัฐสูญเสียรายได้ลงกว่า 165 ล้านบาทต่อปี แต่ในทางกลับกันประเทศไทยจะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาล เนื่องจากช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการประกอบธุรกิจ เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ยังจะส่งผลต่ออันดับของไทยด้านการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ Doing Business ของธนาคารโลกที่คาดว่าจะมีอันดับที่ดีขึ้นอีกด้วย ซึ่งภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลายลงจะทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติเกิดความสนใจและเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการมาลงทุนมากขึ้น
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ