ขณะที่ COVID-19 สายพันธุ์เดลตากำลังเป็นปัญหาน่ากังวลมากขึ้นในสหรัฐฯ แต่ยังพบความลังเลใจที่จะรับวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความเชื่อและอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งสร้างความสลับซับซ้อนสำหรับการแก้ปัญหานี้ด้วย | ที่มาภาพประกอบ: ERIN SCOTT/BLOOMBERG

VOA รายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2021 ระบุว่าขณะที่เชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตากำลังเป็นปัญหาน่ากังวลมากขึ้นในสหรัฐฯ ขณะนี้ ความลังเลใจที่จะรับวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความเชื่อและอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกันก็เป็นเหตุผลสำคัญเรื่องหนึ่งซึ่งสร้างความสลับซับซ้อนสำหรับการแก้ปัญหานี้ด้วย

ตามข้อมูลของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC ขณะนี้มีคนอเมริกันราว 30% ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 และบรรดาผู้ติดเชื้อรายใหม่กับผู้ป่วยที่ต้องเข้าโรงพยาบาลในช่วงหลังนี้ก็เป็นคนกลุ่มนี้ถึงเกือบ 100% โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอเมริกันซึ่งมีอายุระหว่าง 18 ถึง 49 ปี มีสัดส่วนถึงกว่า 40% อยู่ในกลุ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่นี้ด้วย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีไบเดน กล่าวว่าขณะนี้เป็นเวลาที่จะต้องเร่งรณรงค์เพื่อให้ข้อมูลและชักจูงผู้คนที่ยังลังเลใจให้รีบเข้ารับวัคซีน ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า เราต้องใช้การรณณรงค์ในระดับชุมชนและบางครั้งก็อาจหมายถึงการออกไปเคาะประตูตามบ้านเพื่อให้ข้อมูลและช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้คนด้วย

แต่นักการเมืองของพรรครีพับลิกันหลายคน โดยเฉพาะผู้ว่าการของรัฐทางใต้และทางตอนกลางของประเทศ รวมทั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติบางคน กล่าวว่าพวกตนมีความกังวลหากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะออกไปเคาะประตูตามบ้านผู้คน ถึงแม้เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวจะอธิบายว่า เรื่องนี้ไม่ได้หมายถึงการที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะบังคับให้ผู้คนต้องรับวัคซีนแต่จะเป็นการให้ความสนับสนุนต่อการทำงานของรัฐต่าง ๆ มากกว่า

จะเห็นได้ว่าความเห็นต่างทางการเมืองเป็นอุปสรรคต่อการรณณรงค์เพื่อฉีดวัคซีนให้กับคนอเมริกันมากขึ้น โดยผลการสำรวจของข่ายงานโทรทัศน์เอบีซีซึ่งทำร่วมกับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์เมื่อเร็ว ๆ นี้ แสดงว่าไม่ถึงครึ่งของผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันยอมรับว่าตนได้รับวัคซีนแล้ว เมื่อเทียบกับ 93% ของชาวพรรคเดโมแครตซึ่งได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งเข็ม

และเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์แอนโทนี ฟาวซี ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของทำเนียบขาวได้กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าถึงกลุ่มคนผู้ยังไม่ได้รับวัคซีนโดยผ่านทางผู้คนที่ไว้ใจได้ และว่าเราจะต้องแก้ปัญหาความแตกแยกทางการเมืองซึ่งมีมาตั้งแต่การเริ่มของโรคระบาดนี้เมื่อปีที่แล้ว

ส่วนผู้ว่าการของพรรครีพับลิกันคนหนึ่ง คือ นายอาซา ฮัทชินสัน จากรัฐอาร์คันซอ ที่มีอัตราการรับวัคซีนเพียง 32% ก็ยอมรับว่า ความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยเกี่ยวกับวัคซีนนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับความคิดหรือความเชื่อของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มีต่อรัฐบาล แต่ก็ชี้ว่าเราจะต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยความจริงเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของชุมชนและเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติด้วย

ขณะนี้ยังเป็นฤดูร้อนอยู่ในสหรัฐฯ และศูนย์ CDC ระบุว่า โรงเรียนต่าง ๆ จะสามารถกลับมาเปิดสอนได้ตามปกติเมื่อเปิดภาคการศึกษาใหม่ในเดือนกันยายนนี้

อย่างไรก็ตาม คำถามที่ว่าครูกับนักเรียนผู้ได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้วจะต้องสวมหน้ากากอยู่หรือไม่ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

เพราะผู้ว่าการของพรรครีพับลิกันในรัฐอาร์คันซอกับรัฐแท็กซัส บอกว่านักเรียนไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอีกต่อไป แต่เจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาของรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเป็นรัฐที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต ชี้ว่าหน้ากากยังเป็นเรื่องจำเป็นอยู่ เพราะการแยกระยะห่างแต่เพียงอย่างเดียวนั้นอาจจะทำไม่ได้เสมอไปและอาจจะไม่เพียงพอ