คนร่ำรวยในสหรัฐฯ ไม่ได้จ่ายภาษีเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปี 2020 ตามรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. 2021 | ที่มาภาพประกอบ: Getty Images/Photo illustration by Katie Kosma (อ้างใน Longreads)
VOA รายงานว่ารายงานฉบับล่าสุดของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย. 2021 ระบุว่าคนร่ำรวยระดับ top 1% ของอเมริกา ไม่ได้จ่ายภาษี 163,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2020 คิดเป็นสัดส่วนถึง 28% ของมูลค่าภาษีที่ไม่ได้รับการชำระในปีก่อน ซึ่งมีตัวเลขรวมสูงถึง 600,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่คนร่ำรวยระดับ top 5% ก็ไม่ได้จ่ายภาษีเป็นมูลค่า 307,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 53% ของตัวเลขภาษีที่ไม่ได้รับการชำระในปีที่แล้วเช่นกัน
กระทรวงการคลังระบุว่า ภาษีที่คนร่ำรวยในสหรัฐฯ จ่ายต่ำกว่าที่ควรจะเป็นถึง 600,000 ล้านดอลลาร์นี้ คิดเป็นสัดส่วน 3% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ 23 ล้านล้านดอลลาร์ และยังคิดเป็นสัดส่วนเท่ากับ 90% ของมูลค่าภาษีที่ชาวอเมริกันรายได้น้อยต้องจ่ายเมื่อปีที่แล้วด้วย
รายงานของกระทรวงการคลังยังชี้ว่ากลุ่มผู้เสียภาษีที่เป็นคนร่ำรวย เป็นกลุ่มที่หลบเลี่ยงภาษีมากที่สุดในสหรัฐฯ เนื่องจากพวกเขามีกำลังทรัพย์มากพอในการว่าจ้างนักบัญชีและที่ปรึกษาการเงิน เพื่อช่วยป้องกันพวกเขาจากภาระภาษีเงินได้ที่แท้จริง และว่าคนกลุ่มนี้ยังมีแหล่งรายได้ส่วนอื่นๆ จากการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจ กรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ และค่าเช่าต่างๆ ที่ไม่ได้เปิดเผยกับทางการ ในขณะที่คนอเมริกันที่ทำงานทั่วไป กลับถูกหักภาษีให้แก่รัฐอย่างเต็มที่จากนายจ้าง
กระทรวงการคลัง ระบุในรายงานฉบับนี้ว่า นี่เป็นประเด็นที่ผู้กำหนดนโยบายจะต้องเลือกระหว่างการขาดดุลงบประมาณต่อไป การต้องลดการใช้จ่ายของรัฐบาลในภาคส่วนที่สำคัญจำเป็น หรือจะปรับขึ้นภาษีเพื่อชดเชยรายได้ที่หายไปจากคนกลุ่มนี้
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ทราบปัญหาเรื่องคนร่ำรวยหลบเลี่ยงภาษีมาโดยตลอด แต่รัฐบาลก็ล้มเหลวในการใช้มาตรการทางกฏหมายมาแก้ปัญหานี้มาโดยตลอดเช่นกัน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายภาครัฐขนานใหญ่ ในการลงทุนเพื่อพัฒนาสังคมมูลค่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ ที่มุ่งเน้นเรื่องระบบการดูแลเด็กและระบบดูแลสุขภาพซึ่งจะมีผลกระทบกับทุกคนในอเมริกา และคาดว่าแผนการลงทุนมหาศาลนี้ จะได้มาจากการปรับขึ้นอัตราภาษีนิติบุคคล และเก็บภาษีเพิ่มกับบุคคลที่มีรายได้มากกว่า 400,000 ดอลลาร์ต่อปี แต่ฝั่งรีพับลิกันออกโรงคัดค้านแผนการดังกล่าว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ