สื่อ VOA รายงาน ผลการศึกษาชี้ยา 'Fluvoxamine' ซึ่งมักใช้รักษาภาวะสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า และโรคย้ำคิดย้ำทำ อาจลดความเสี่ยงเข้า รพ. จาก COVID-19 ได้ | ที่มาภาพ: Matt Miller/Wash. U. in St. Louis (อ้างใน Futurity)
เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2021 VOA รายงานว่าในช่วงที่ภาวะการระบาดของ COVID-19 ยังเป็นวิกฤตที่คนทั่วโลกยังพยายามหาทางรับมือและใช้ชีวิตอยู่ด้วยให้ได้ การศึกษาล่าสุดเปิดเผยว่า ยารักษาสุขภาพจิตที่มีอยู่ในตลาดตัวหนึ่ง อาจช่วยลดความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสในที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลได้
การศึกษาครั้งใหม่พบว่ายาต้านอาการซึมเศร้าราคาถูกช่วยลดความจำเป็นในการรักษาตัวในโรงพยาบาลของผู้ป่วย COVID-19 ที่มีความเสี่ยงสูงได้
ยาดังกล่าวมีชื่อว่าฟลูโวซามีน (Fluvoxamine) ซึ่งมักใช้รักษาภาวะสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า และโรคย้ำคิดย้ำทำ
นักวิจัยตัดสินใจทดสอบประสิทธิผลของยาที่มีต่ออาการของ COVID-19 เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีว่า ยานี้ช่วยลดการอักเสบได้ ปัญหาสุขภาพมากมายที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ล้วนเกิดจากภาวะอักเสบในร่างกายเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อการติดเชื้อมากเกินไป
นอกจากนี้ การวิจัยอย่างต่อเนื่องยังได้ทดสอบยาชนิดอื่นๆ ที่มีอยู่เพื่อดูว่าสามารถรักษา COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยหรือไม่
เมื่อไม่นานมานี้ นักวิจัยได้ศึกษาชาวบราซิลเกือบ 1,500 คน ที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของ COVID-19 โดยคนเหล่านี้มีความเสี่ยงต่ออาการเจ็บป่วยที่ร้ายแรง เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพอื่นๆ และนักวิจัยให้ผู้ป่วยครึ่งหนึ่งใช้ยาฟลูโวซามีนที่บ้านเป็นเวลา 10 วัน ส่วนที่เหลือใช้ Placebo หรือยาหลอก และติดตามดูผลการรักษาของยาเป็นเวลาสี่สัปดาห์
นักวิจัยพบว่า 11 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ใช้ยาฟลูโวซามีนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรืออยู่ในห้องฉุกเฉินเป็นเวลานาน เทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอกซึ่งมีอัตรานี้ 16 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี ยาต้านอาการซึมเศร้ามีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษาโควิด-19 แบบอื่นๆ โดยการรักษาด้วยการให้แอนติบอดีทางเส้นเลือดมีราคาประมาณ 2,000 ดอลลาร์ และยาทดลองต้านไวรัสสำหรับ COVID-19 ที่พัฒนาโดยบริษัท เมอร์ค (Merck) มีค่าใช้จ่ายราว 700 ดอลลาร์ต่อหนึ่งชุด
นักวิจัยได้ให้ข้อมูลผลการศึกษานี้แก่สถาบัน U.S. National Institutes of Health ซึ่งเผยแพร่แนวทางการรักษา และหวังว่าจะได้รับคำแนะนำให้ใช้ยานี้ได้จากองค์การอนามัยโลก (WHO) ด้วย
หัวหน้าการศึกษานี้กล่าวว่า ยาดังกล่าวอาจช่วยป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงหรือการเสียชีวิตในประเทศยากจนที่ไม่มีวัคซีนป้องกัน COVID-19 ได้ในราคาที่ไม่แพง
ดร. เอ็ดเวิร์ด มิลส์ (Dr. Edward Mills) แห่งมหาวิทยาลัยแม็คมาสเตอร์ (McMaster University) ที่เมืองออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา หัวหน้าการศึกษาวิจัยนี้บอกกับผู้สื่อข่าว เอพี ว่า หากองค์การอนามัยโลกมีคำแนะนำให้ใช้ยาฟลูโวซามีน ก็จะเป็นผลให้มีการนำไปใช้อย่างกว้างขวาง และว่ายานี้มีใช้อยู่แล้วในหลายๆ ประเทศที่ยากจน ซึ่งหวังว่าจะนำไปสู่การช่วยชีวิตผู้คนได้มากมาย
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์บางคนกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าน่าจะมีการผสมผสานวิธีรักษารูปแบบต่างๆ มาใช้ร่วมกันเพื่อต่อสู้กับ COVID-19 ในอนาคต
ดร.พอล แซ็กส์ (Dr. Paul Sax) แห่ง Harvard Medical School และโรงพยาบาล Brigham and Women's Hospital ที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมในการศึกษานี้ระบุว่ายาฟลูโวซามีนและยา COVID-19 ของ เมอร์ค มีลักษณะการทำงานแตกต่างกัน แต่อาจจะใช้เสริมกันได้
อย่างไรก็ตาม คำถามมากมายยังคงมีอยู่เกี่ยวกับปริมาณของยาต้านอาการซึมเศร้าที่ควรจะใช้ โดย นักวิจัยมีแผนจะศึกษาว่า ยาฟลูโวซามีนสามารถช่วยผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่ำได้ด้วยหรือไม่ และควรให้ยานี้ร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ หรือไม่
ขณะนี้มีโครงการศึกษาซึ่งใหญ่กว่าที่ศึกษายา 8 ชนิดที่มีอยู่ เพื่อดูว่าจะสามารถใช้ต้านโคโรนาไวรัสได้หรือไม่ และตอนนี้ โครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการทดสอบยารักษาตับอักเสบ แต่ยาอื่นๆ รวมทั้งเมตฟอร์มิน ไฮดรอกซีคลอโรควิน และไอเวอร์เม็กติน ไม่ได้แสดงผลลัพธ์ที่ดี
รายงานผลการศึกษาดังกล่าวตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Lancet Global Health ฉบับเมื่อเร็วๆ นี้
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ