ประเทศไทย: การลงโทษจำคุก 87 ปีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นอัตราโทษสูงสุดที่เคยมีมา

กองบรรณาธิการ TCIJ 20 ม.ค. 2564 | อ่านแล้ว 1806 ครั้ง

ประเทศไทย: การลงโทษจำคุก 87 ปีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นอัตราโทษสูงสุดที่เคยมีมา

Amnesty International เผยการลงโทษจำคุก 87 ปีในความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นอัตราโทษสูงสุดที่เคยมีมาในประเทศไทย ชี้เป็นคดีที่น่าตกใจ นับเป็นการโจมตีอย่างร้ายแรงอีกครั้งต่อพื้นที่ของสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก ที่กำลังหดหายไปในประเทศไทย | ที่มาภาพ: Lauren DeCicca / Getty Images (อ้างใน AMNESTY INTERNATIONAL THAILAND)

20 ม.ค. 2564 AMNESTY INTERNATIONAL THAILAND รายงานว่าสืบเนื่องจากการที่ศาลไทยสั่งลงโทษจำคุกสูงถึง 87 ปี ต่ออัญชัญ ปรีเลิศ หลังพบว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ยามินี มิชรา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่าคดีที่น่าตกใจเช่นนี้ นับเป็นการโจมตีอย่างร้ายแรงอีกครั้งต่อพื้นที่ของสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก ที่กำลังหดหายไปในประเทศไทย

“จำนวนบุคคลที่ถูกดำเนินคดีซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้งที่ถูกควบคุมตัวตามกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สะท้อนให้เห็นความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของทางการไทยที่จะปิดปากผู้เห็นต่าง บทลงโทษที่รุนแรงอย่างมากในวันนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันข้อเท็จจริงดังกล่าว และแสดงให้เห็นว่ากฎหมายนี้ไม่สอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

“การหมิ่นประมาทไม่ควรนำไปสู่การลงโทษอาญาอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นการจำคุกเป็นเวลานานมาก ดังเช่นคำตัดสินในวันนี้

“อัญชัญได้รับการปฏิบัติที่เลวร้ายตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อปี 2558 รวมทั้งการถูกควบคุมตัวระหว่างรอการพิจารณาเป็นเวลาหลายปี โดยในบางช่วงมีการห้ามไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอกด้วย

“ลักษณะการกำหนดโทษยังเป็นสิ่งที่น่าตกใจ เนื่องจากทางการพยายามลงโทษให้หนักสุด โดยการคูณจำนวนกรรมของการกระทำความผิดกับโทษจำคุกแต่ละกรรม ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเป็นการป้องปราม ข่มขู่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 50 ล้านคนในประเทศไทย

“ทางการไทยต้องยุติการปราบปรามผู้แสดงความเห็นต่างอย่างสงบ รัฐบาลต้องยกเลิกหรือแก้ไขเนื้อหาสาระสำคัญของกฎหมายที่จำกัดสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก ทั้งในชีวิตจริงและในพื้นที่ออนไลน์ รวมทั้งความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการตัดสินวันนี้”

ข้อมูลพื้นฐาน

อัญชัญ ปรีเลิศ อายุ 63 ปี ผู้ขายอาหารและอดีตข้าราชการ ถูกลงโทษในความผิด 29 กรรม ฐาน “หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ” ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ของไทย เธอถูกจับเมื่อเดือนมกราคม 2558 และถูกควบคุมตัวเป็นเวลาสี่ปี จนกระทั่งเดือนพฤศจิกายน 2561 จึงได้รับการประกันตัวออกมา

ในช่วงแรก อัญชัญถูกควบคุมตัวโดยไม่ให้ติดต่อกับโลกภายนอกในค่ายทหารเป็นเวลาห้าวัน ก่อนจะถูกส่งตัวไปคุมขังในสถานที่ควบคุมตัว และถูกปฏิเสธคำขอประกันตัวมาตลอด

ศาลเห็นว่าอัญชัญมีความผิดฐานแชร์และอัพโหลดคลิปวีดิโอผ่านโซเชียลมีเดีย เป็นคลิปรายการพูดทางออนไลน์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีข้อความหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

อัญชัญรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และได้รับโทษจำคุกกรรมละสามปี สำหรับความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั้ง 29 กรรม หรือรวมกัน 87 ปี นับเป็นบทลงโทษรุนแรงสุดตามมาตรา 112 จนถึงปัจจุบัน ศาลได้ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือ 43ปี ครึ่ง เนื่องจากคำให้การรับสารภาพของอัญชัญ มาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญากำหนดระวางโทษจำคุกระหว่าง 3-15 ปี

ท่ามกลางการประท้วงอย่างสงบที่เพิ่มขึ้นตลอดทั้งปี 2563 ทางการไทยได้เริ่มกลับมาใช้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเมื่อเดือนพฤศจิกายนในปีที่แล้ว หลังจากไม่มีการแจ้งข้อหาตามกฎหมายนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561

มีบุคคลกว่า 220 คนรวมทั้งเยาวชน ที่ถูกดำเนินคดีอาญาจากการเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงอย่างสงบตลอดทั้งปี 2563 โดยในจำนวนนี้ มีอยู่หลายสิบคนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ซึ่งคุ้มครองสิทธิที่จะมีเสรีภาพด้านการแสดงออก ตามข้อ 19 ของกติกา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติซึ่งเป็นหน่วยงานตามสนธิสัญญา และรับผิดชอบการตีความกติกา ICCPR ได้กล่าวว่า “การจำคุกไม่ควรเป็นการลงโทษที่เหมาะสม” ของความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาท รวมทั้งความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: