การเข้าซื้อทีม 'นิวคาสเซิล' ของ 'มกุฎราชกุมารซาอุฯ' จุดชนวนข้อถกเถียงใน 'พรีเมียร์ลีก'

กองบรรณาธิการ TCIJ 22 พ.ย. 2564 | อ่านแล้ว 2498 ครั้ง

การเข้าซื้อทีม 'นิวคาสเซิล' ของ 'มกุฎราชกุมารซาอุฯ' จุดชนวนข้อถกเถียงใน 'พรีเมียร์ลีก'

สื่อต่างประเทศเผยการเข้าซื้อทีม 'นิวคาสเซิล' ของ 'มกุฎราชกุมารซาอุฯ' จุดชนวนข้อถกเถียงใน 'พรีเมียร์ลีก' การแข่งขันฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดและมีคนดูมากที่สุดในโลก ที่ดูเหมือนว่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มผู้มีอำนาจอิทธิพล รัฐบาลเผด็จการ และผู้ปกครองที่มีอำนาจเด็ดขาดอีกด้วย | ที่มาภาพประกอบ: Gazzetta Foot

VOA รายงานว่าเมื่อปลายเดือน ต.ค. 2021 ที่ผ่านมา แฟนของทีมฟุตบอล คริสตัล พาเลซ สโมสรของอังกฤษ ได้ยั่วยุแฟนของทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยการชูป้ายล้อเลียนเจ้าของใหม่ของทีมนิวคาสเซิล ซึ่งเป็นภาพมกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบียถือดาบเปื้อนเลือด

นอกจากนี้ พวกเขายังทำป้าย "บททดสอบเจ้าของทีมพรีเมียร์ลีก" ว่าเจ้าของสโมสรฟุตบอลอังกฤษนั้นควรจะมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่พวกเขาตั้งขึ้นมาเอง ได้แก่ การก่อการร้าย การฆ่าตัดศรีษะ การคุกคามสิทธิประชาชน และการฆาตรกรรม

การที่หุ้นส่วนนักลงทุนที่นำโดยซาอุดิอาระเบียเข้าซื้อทีมนิวคาสเซิลเมื่อเดือนตุลาคม ด้วยมูลค่ากว่า 415 ล้านดอลลาร์ ได้ทำให้เกิดข้อวิพากษ์วิจารณ์และเกิดข้อถกเถียงโต้แย้งต่าง ๆ นานาเกี่ยวกับพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นลึกการแข่งขันฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดและมีคนดูมากที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังดูเหมือนว่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มผู้มีอำนาจอิทธิพล รัฐบาลเผด็จการ และผู้ปกครองที่มีอำนาจเด็ดขาดอีกด้วย ตามความเห็นของนักวิจารณ์

ใน 20 ทีมของพรีเมียร์ลีกนั้น มีสองทีม คือแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และนิวคาสเซิล ที่ถูกซื้อไปโดยรัฐบาลเผด็จการ ในขณะที่เจ้าของอีกสองทีม คือ เชลซี และวูฟเวอร์แฮมพ์ตัน วานเดอรส์ คือ กลุ่มผู้มีอำนาจอิทธิพลที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลที่ปกครองโดยใช้อำนาจเด็ดขาด ส่วนเจ้าของของทีมเซาท์แธมตัน คือนักธุรกิจชาวจีนที่การเข้าซื้อทีมถูกระงับไว้หลังจากที่เกิดข้อกล่าวหาว่านักธุรกิจคนดังกล่าวเกี่ยวพันกับการติดสินบนและคอรัปชั่นในประเทศจีน จนทำให้เจ้าหน้าที่ฟุตบอลอังกฤษต้องทำการตรวจสอบ

ส่วน แอมเนสตี อินเตอร์แนชั่นแนล ได้วิจารณ์การเข้าซื้อทีมนิวคาสเซิลของซาอุดิอาระเบีย ว่าเป็น​ “ความพยายามอย่างชัดเจนของทางการซาอุดิที่จะใช้กีฬา และเสน่ห์ของทีมฟุตบอลชั้นนำของโลก เพื่อชำระล้างประวัติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ย่ำแย่ในประเทศของตน”

ในเดือน ก.พ. 2021 ที่ผ่านมา หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้สรุปในรายงานว่ามกุฎราชกุมาร โมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน ของซาอุดิอาระเบีย ได้ทรงอนุมัติให้ฆาตกรรมนาย จามาล คาชอกกี นักข่าวของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ณ สถานกงสุลซาอุดิอาระเบีย ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี ก่อนที่ร่างของเขาจะถูกสับเป็นชิ้น ๆ ในรายงานดังกล่าว หน่วยข่าวกรองยังระบุด้วยว่ามกุฎราชกุมารเป็นผู้อนุมัติแผน “จับเป็นหรือจับตาย” สำหรับคาชอกกี ซึ่งมักจะวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ซาอุฯ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ซาอุดิอาระเบียปฏิเสธข้อมูลในรายงานดังกล่าว และกล่าวว่ารายงานของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ นั้น “เป็นไปในทางลบ เป็นเท็จ และยอมรับไม่ได้”

เจ้าหน้าที่พรีเมียร์ลีกของอังกฤษกล่าวว่าพวกเขาได้รับการยืนยันรับรองว่าทางการซาอุดิฯ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงานในแต่ละวันของทีมนิวคาสเซิล

แต่ผู้บริหารของ Amnesty UK ซาชา เดชมุคห์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า องค์กรได้ของให้ผู้บริหารพรีเมียร์ลีกเปลี่ยนกฎคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นเจ้าของและผู้อำนวยการของทีมฟุตบอล โดยเสนอว่าให้มีการตรวจสอบประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชน ก่อนที่จะอนุมัติการเข้าซื้อสโมสรฟุตบอลในลีก แทนที่จะปล่อยให้คนที่เกี่ยวพันกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงเดินหน้าซื้อทีมฟุตบอลอังกฤษ เพียงเพราะพวกเขาเป็นคนกระเป๋าหนัก

ส่วนปฏิกิริยาของแฟนบอลนั้น ส่วนใหญ่มักจะแสดงความลังเล หรือความรู้สึกครึ่ง ๆ กลาง ๆ เมื่อชาวต่างชาติต้องการจะเข้าซื้อทีมฟุตบอลที่ตัวเองรัก พวกเขามักจะออกมาวิพากษ์วิจารณ์เมื่อมีการประกาศซื้อครั้งแรก แต่หลังจากนั้นก็มักจะแสดงความยินดีที่ทีมที่พวกตนติดตามได้เงินทุนมาช่วยจนทำให้ประสบความสำเร็จ โดยมีตัวอย่างให้เห็นก่อนหน้านี้

เช่น หลังจากที่ชีคห์ มานซูร์ บิน ซาเย็ด อัล นาห์ยาน สมาชิกราชวงศ์อาบู ดาบี และรองนายกรัฐมนตรีของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าซื้อทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในปี 2008 มีการคาดว่าพระองค์ได้ทุ่มเงินประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ ในการซื้อตัวนักเตะและทีมฝึกซ้อมระดับท้อป จนทำให้ทีมได้รับชัยชนะในศึกพรีเมียร์ลีกถึงห้าครั้ง

ส่วนทีม เชลซี ซึ่งเจ้าของคือ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีและผู้มีอิทธิพลของรัสเซียที่มีความสัมพันธุ์ใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์​ ปูติน กำลังรั้งตำแหน่งทีมนำในลีก ตามมาด้วยทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งทั้งสองทีม ได้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในลีกหลังจากถูกซื้อโดยทุนต่างชาติ

แฟนของทีมนิวคาสเซิลไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะฉลองที่ทีมมีเจ้าของใหม่เป็นมกุฎราชกุมารของซาอุดิอาระเบีย หลังจากที่ทีมไม่ค่อยประสบความสำเร็จในลีกและมีอันดับเกือบรั้งท้ายมาตลอด พวกเขาหวังว่าเจ้าของใหม่จะช่วยทำให้ทีมประสบความสำเร็จได้ แฟนบางคนได้โบกธงซาอุดิฯ บ้างก็สวมผ้าโพกศรีษะของชายอาหรับสไตล์ซาอุดิอีกด้วย

ซึ่งการแสดงออกดังกล่าวทำให้นาย จอห์น นิโคลสัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษ ประณามการแสดงออกของแฟนนิวคาสเซิลดังกล่าว โดยเขากล่าวว่า “ผมพยายามนึกดูว่า ภรรยาม่ายของจามาล คาชอกกีจะรู้สึกอย่างไร หลังจากที่สามีของเธอถูกฆ่าหั่นศพ แล้วเธอต้องมาเห็นพวกงี่เง่าเหล่านี้เต้นแร้งเต้นกา ใส่ชุดอาหรับอยู่หน้าสโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด”

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: