สหรัฐฯ ขาดแคลน 'ไลฟ์การ์ด' ดูแลความปลอดภัยที่สระว่ายน้ำ

กองบรรณาธิการ TCIJ 3 ก.ค. 2565 | อ่านแล้ว 1819 ครั้ง

สหรัฐฯ ขาดแคลน 'ไลฟ์การ์ด' ดูแลความปลอดภัยที่สระว่ายน้ำ

สื่อ VOA เผยสหรัฐฯ ขาดแคลน ‘ไลฟ์การ์ด’ ซึ่งเป็นบุคคลที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในบริเวณสระว่ายน้ำในหลายพื้นที่ของประเทศ

VOA รายงานเมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. 2022 ว่าขณะนี้ อากาศที่อบอ้าวในช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ ได้เพิ่มความต้องการให้หลาย ๆ คนอยากไปว่ายน้ำเพื่อดับร้อนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การขาดแคลน ‘ไลฟ์การ์ด’ ซึ่งเป็นบุคคลที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในบริเวณสระว่ายน้ำในหลายพื้นที่ของประเทศได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมข้างต้น

การขาดแคลนชีพบาล หรือ ‘ไลฟ์การ์ด’ ซึ่งทำหน้าเป็นผู้เฝ้าระวังสถานการณ์ฉุกเฉินและคอยให้ความช่วยเหลือผู้ที่มาว่ายน้ำ ในชุมชนต่าง ๆ ทั่วสหรัฐฯ นั้นได้รับผลกระทบตั้งแต่เกิดการระบาดของโคโรไวรัส รวมทั้งที่เมืองอินเดียนาโพลิสในรัฐอินเดียนา ที่จำต้องลดการเปิดจำนวนสระว่ายน้ำและชั่วโมงการใช้สระ ส่วนสระบางแห่งที่เปิดทำการ กลับไม่มีผู้ดูแลความปลอดภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือ

แอชลีย์ ฟอร์ด หัวหน้าผู้ดูแลไลฟ์การ์ด สระว่ายน้ำจำนวน 5 สระที่ Frederick Douglass Park ของเมืองอินเดียนาโพลิส กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอ คือ ความปลอดภัยของผู้ที่มาว่ายน้ำ”

แต่การที่สระว่ายน้ำสาธารณะราว 12 สระในเมืองนี้จำต้องปิดทำการ เพราะการขาดแคลนไลฟ์การ์ดนั้น ทำให้ครอบครัวชาวอเมริกันบางครอบครัวยอมมาต่อคิวนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อเข้าเล่นน้ำที่สวนสาธารณะ Frederick Douglass Park ฟอร์ดกล่าวว่าในบางวันนั้น สระน้ำของสวนสาธารณะไม่สามารถรองรับผู้เข้ามาใช้บริการทั้งหมดได้เพราะเกินขีดจำกัดในเรื่องความปลอดภัยของจำนวนคนในสระ

เพราะเหตุนี้ ท่ามกลางคลื่นความร้อนที่ทำให้อากาศอบอ้าวอย่างต่อเนื่องในหลายสัปดาห์ ชาวอเมริกันบางส่วนจึงเผชิญความเสี่ยงเวลาว่ายน้ำมากขึ้น ในขณะที่พวกเขากลับมีตัวเลือกในสถานที่ที่สามารถไปว่ายน้ำได้อย่างปลอดภัยน้อยลง

ผู้เขี่ยวชาญด้านสาธารณสุขยังชี้ด้วยว่า ความเสี่ยงในการจมน้ำนั้นลงลดอย่างมาก หากมีไลฟ์การ์ดคอยจับตาดูสถานการณ์ ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ รายงานว่า คนแอฟริกันอเมริกันอายุต่ำกว่า 29 ปี มีโอกาสจมน้ำมากกว่าคนผิวขาวที่อายุเท่ากันถึง 1.5 เท่า

เบอร์นาร์ด เจ. ฟิชเชอร์ ผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยแห่งสมาคมไลฟ์การ์ดอเมริกัน กล่าวว่า เมื่อสระน้ำในชุมชนไม่เปิดให้บริการ เด็ก ๆ และวัยรุ่นมักจะไปว่ายน้ำในบริเวณที่ไม่มีไลฟ์การ์ดคอยดูจึงทำให้อาจเกิดการจมน้ำได้

ทางสมาคมประเมินว่า การขาดแคลนผู้ดูแลความปลอดภัยที่สระว่ายน้ำส่งผลกระทบต่อสระว่ายน้ำราว 33% ทั่วสหรัฐฯ เขาคาดการณ์ว่ายอดดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นไปถึง 50% ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม เพราะไลฟ์การ์ดที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นจะต้องออกจากงาน เนื่องจากโรงเรียนเปิดภาคการศึกษา

ฟิชเชอร์ อธิบายเสริมว่า การขาดแคลนไลฟ์การ์ดในช่วงฤดูร้อนไม่ใช่ปรากฏการณ์ใหม่ สระว่ายน้ำหลายแห่งทั่วสหรัฐฯ ได้พยายามรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงแรกที่โควิดระบาดแล้ว แต่สองสิ่งที่กระทบต่อจำนวนไลฟ์การ์ด คือ การปิดสระจึงทำให้ไม่สามารถสอบรับรองการอนุมัติให้ผู้คนเป็นไลฟ์การ์ดเพิ่มได้ บวกกับค่าจ้างของอาชีพนี้ซึ่งต่ำกว่างานอื่น ๆ ด้วย

สำหรับศูนย์ Indy Parks and Recreation ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐของเมืองอินเดียนาโพลิสนั้น ไลฟ์การ์ดที่จะสามารถทำงานได้จะต้องผ่านการฝึกความสามารถ ไลฟ์การ์ดจะต้องว่ายน้ำได้ 100 หลา หรือราว 91 เมตร พยุงตัวในน้ำโดยไม่ใช้มือได้ถึง 1 นาที และเคลื่อนย้ายวัสดุที่หนัก 10 ปอนด์หรือ ประมาณ 4.5 กิโลกรัมจากก้นสระได้ สำหรับค่าจ้างนั้นอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าการเป็นไลฟ์การ์ดที่สระว่ายน้ำในอุทยานของรัฐอินดีแอนาที่ให้ค่าจ้างที่ 11 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

โดนัลด์ แฮร์ริส หนุ่มไลฟ์การ์ดวัย 17 ปีที่รับหน้าที่นี้มาสองปีซ้อน กล่าวว่า “ผมพยายามชวนให้เพื่อน ๆ มาทำงาน(เป็นไลฟ์การ์ด)ในช่วงฤดูร้อนเพื่อที่จะได้มีเงินเก็บกัน แต่เพื่อน ๆ กลับบอกว่าไลฟ์การ์ดไม่ใช่งานสำหรับพวกเขา”

ฟอร์ด หัวหน้าผู้ดูแลไลฟ์การ์ดที่ศูนย์ Indy Parks and Recreation ชี้ว่าในปีนี้มีไลฟ์การ์ดจำนวน 100 คน ซึ่งอยู่ราวๆเพียงครึ่งหนึ่งในยามปกติ

เมื่อลองเปรียบเทียบกับพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐฯ รัฐเมนให้ค่าตอบแทนไลฟ์การ์ดที่ 16 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่สระว่ายนำ้ของทางการหลาย ๆ แห่งในรัฐนี้ก็ยังขาดไลฟ์การ์ดอยู่ดี ทางด้านเมืองชิคาโกซึ่งมีโปรแกรมทางน้ำที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยมีสระว่ายน้ำสาธารณะถึง 77 สระและชายหาดที่ 22 หาดนั้นก็ประสบปัญหาการขาดแคลนไลฟ์การ์ดเช่นกัน ส่งผลกระทบให้เมืองข้างต้นต้องเลื่อนวันเปิดสระจากวันที่ 24 มิถุนายนไปเป็นวันที่ 5 กรกฎาคมแทน

เมืองชิคาโกยังพยายามดึงดูดให้คนมาสมัครเป็นไลฟ์การ์ดด้วยการให้โบนัสเพิ่มเป็น 600 ดอลลาร์จากปีก่อนที่อยู่เพียง 500 ดอลลาร์ พร้อมยังลดกฎเรื่องถิ่นฐานของผู้เข้าสมัครว่าไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในนครชิคาโก

ทั้งนี้ โรซ่า เอสการาโน ผู้อำนวยการแห่ง Chicago Park District ระบุว่า อีกสาเหตุหนึ่งที่นอกเหนือจากการระบาดของโควิดที่อาจทำให้คนลังเลไม่สมัครเป็นไลฟ์การ์ดในชิคาโกอาจเกิดจากล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งทางหน่วยงานนี้ย้ำว่าเรื่องความปลอดภัยทั้งของพนักงานและผู้ที่เข้ามาใช้บริการเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ทางด้านสภากาชาดอเมริกัน (American Red Cross) ระบุว่า ผู้สนใจโดยเฉลี่ยราว 330,000 คนต่อปีมักจะสมัครเข้าโครงการขององค์กรเพื่อเป็นไลฟ์การ์ด นอกจากนี้ เจเนลล์ อีไล ผู้อำนวยการอาวุโสด้านสื่อแห่งองค์กรข้างต้นนี้กล่าวว่า แม้จำนวนไลฟ์การ์ดได้ลดลงในช่วงการระบาดเพราะสระจำต้องปิดทำการไป แต่ในปัจจุบัน จำนวนไลฟ์การ์ดได้ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นแล้

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: