รายงานชี้นักข่าวต้องสู้กับเฟคนิวส์ เร่งรายงานข่าว และคว้าใจกลุ่มเป้าหมายใหม่

กองบรรณาธิการ TCIJ 5 มิ.ย. 2565 | อ่านแล้ว 3013 ครั้ง

รายงานชี้นักข่าวต้องสู้กับเฟคนิวส์ เร่งรายงานข่าว และคว้าใจกลุ่มเป้าหมายใหม่

Cision แพลตฟอร์มการสื่อสาร เผยรายงานสถานการณ์สื่อประจำปี 2565 ซึ่งรวบรวมคำตอบจากนักข่าวมากกว่า 3,800 คน จาก 17 ตลาดทั่วโลกว่า ชี้นักข่าวต้องสู้กับเฟคนิวส์ เร่งรายงานข่าว และคว้าใจกลุ่มเป้าหมายใหม่ ความท้าทายที่สุดยังคงเป็นการรักษาความน่าเชื่อถือในฐานะแหล่งข่าวที่ไว้วางใจได้ | ที่มาภาพประกอบ: ประชาไท

เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 2565 สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานว่าซิชัน (Cision) แพลตฟอร์มการสื่อสารที่มีความครอบคลุมเผยรายงานสถานการณ์สื่อประจำปี 2565 หรือ "State of the Media" ซึ่งรวบรวมคำตอบจากนักข่าวมากกว่า 3,800 คน จาก 17 ตลาดทั่วโลกว่า ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนักข่าวยังคงเป็นการรักษาความน่าเชื่อถือในฐานะแหล่งข่าวที่ไว้วางใจได้ (32%) และการต่อสู้กับ "ข่าวปลอม"

ส่วนประการต่อมานั้น นักข่าวได้พูดถึงปัญหาคนทำงานที่น้อยลงและทรัพยากรที่ลดลงจนส่งผลกระทบต่อภาระงานของตนเอง โดยนักข่าว 3 ใน 10 คน (29%) เผยว่าตนเองต้องเขียนข่าวมากกว่า 10 ชิ้นต่อสัปดาห์เลยทีเดียว

นิโคล กุลลิออต ซีโอโอของซิชันและประธานของพีอาร์นิวส์ไวร์ (PR Newswire) กล่าวว่า หน้าที่ของนักข่าวในปัจจุบันไม่ใช่เป็นเพียงแค่การส่งข่าวออกไปเท่านั้น ซึ่งนั่นถือเป็นโอกาสทองที่นักสื่อสารมืออาชีพจะได้ประสานความร่วมมือกับสื่ออย่างประสบความสำเร็จ เพื่อสร้างหลักประกันว่าเรื่องราวต่าง ๆ จะได้รับการเผยแพร่อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และตรงประเด็น

ทั้งนี้ เมื่อพูดถึงแหล่งข้อมูลที่นักข่าวมองว่ามีประโยชน์ในการสร้างสรรค์เรื่องราวหรือต่อยอดแนวคิดต่าง ๆ มากที่สุดนั้น พบว่า นักข่าวมากกว่า 1 ใน 3 (37%) ระบุว่าเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นคำตอบอันดับหนึ่ง โดยนักข่าวมากกว่า 3 ใน 4 (76%) ต้องการรับข่าวประชาสัมพันธ์จากแบรนด์และพีอาร์มืออาชีพมากกว่าเนื้อหาข่าวประเภทอื่น ๆ ตามมาด้วยคอนเทนต์ประเภทแนวโน้มและข้อมูลตลาด (63%) และนักข่าวเกือบครึ่ง (49%) ต้องการให้แบรนด์เชิญเข้าร่วมงานอีเวนต์ต่าง ๆ

"ข่าวประชาสัมพันธ์ยังคงครองอันดับสูงสุดของแหล่งข้อมูลที่นักข่าวต้องการ และเป็นวิธีการส่งข่าวไปยังสื่อที่เป็นที่นิยม พร้อมมอบข้อมูลที่ถูกต้อง รอบคอบ และรวดเร็ว" กุลลิออต กล่าว
นอกจากนี้ กุลลิออต ยังเสริมว่า "เมื่อพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างมืออาชีพในอุตสาหกรรมการสื่อสารและนักข่าว สิ่งสำคัญที่สุดคือการแบ่งเบาภาระให้กับสื่อ ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ด้วยการทำความรู้จักนักข่าวที่เหมาะสมที่จะพูดคุยด้วย และสร้างความร่วมมือโดยอาศัยพื้นฐานของความไว้วางใจ และทำความเข้าใจผู้รับสารที่คุณทั้งคู่พยายามจะเข้าถึงร่วมกัน"

ทั้งนี้ เพื่อสานสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับบรรดานักข่าว พีอาร์มืออาชีพควรต้องตระหนักในประเด็นเหล่านี้

1. ข้อมูลถูกต้องและมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ: นักข่าวเกือบ 2 ใน 3 (60%) ระบุว่าพวกเขาต้องการข้อมูลที่ถูกต้องและมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันสิ่งที่สื่อให้ความสำคัญคือความน่าเชื่อถือและการได้รับความไว้วางใจจากผู้ชม

2. ส่งข่าวทันเวลา: หากนักข่าวรู้สึกว่าฝ่ายพีอาร์ไม่ให้ความเคารพต่อเวลาอันมีค่าของพวกเขา นักข่าวจำนวนมาก (22%) ก็พร้อมที่จะไม่ให้ความสำคัญกับฝ่ายพีอาร์เหล่านั้นด้วยเช่นกัน

3. หยุดสแปม: นักข่าวส่วนใหญ่ (74%) ไม่ประทับใจ "การระดมส่งข่าวที่ไม่เกี่ยวข้องแบบเหวี่ยงแห" ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่พีอาร์จะต้องส่งข่าวที่เหมาะสมกับให้กับสื่อแต่ละเจ้า อันที่จริงแล้ว มีนักข่าวเพียง 9% เท่านั้นที่กล่าวว่า ข่าวส่วนใหญ่ที่พวกเขาได้รับมีความเกี่ยวข้องกับตัวเอง

4. เพิ่มสื่อมัลติมีเดียอย่างรูปภาพ วิดีโอ และอินโฟกราฟิก: 22% ของนักข่าวเผยว่า นักประชาสัมพันธ์สามารถทำให้งานของพวกเขาสะดวกสบายมากขึ้นได้ ด้วยการเพิ่มสื่อดังกล่าวในคอนเทนต์และข่าวประชาสัมพันธ์ โดยนักข่าวมากกว่าครึ่ง (54%) กล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะเผยแพร่คอนเทนต์มากขึ้นหากมีสื่อมัลติมีเดียรวมอยู่ด้วย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: