ห้ามส่งออกหมู 3 เดือน 6 ม.ค.-5 เม.ย. 2565 สั่งแจ้งสต๊อก-ราคาทุก 7 วัน

กองบรรณาธิการ TCIJ 6 ม.ค. 2565 | อ่านแล้ว 2119 ครั้ง

ห้ามส่งออกหมู 3 เดือน 6 ม.ค.-5 เม.ย. 2565 สั่งแจ้งสต๊อก-ราคาทุก 7 วัน

คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เคาะมาตรการแก้หมูแพง ระงับส่งออกชั่วคราว 3 เดือน เริ่ม 6 ม.ค.- 5 เม.ย. 2565 ดึงหมูเข้าระบบ 1 ล้านตัว สั่งผู้เลี้ยง-ค้าส่ง แจ้งสต๊อกและราคา ทุก 7 วัน หวังช่วยดึงราคาลดลงได้ | ที่มาภาพประกอบ: สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565 ว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ครั้งที่ 1/2565 ถึงแนวทางการแก้ปัญหาราคาเนื้อหมูว่า ปัจจุบัน การผลิตสุกรป้อนเข้าสู่ตลาด ตัวเลขในปี 2564 ประมาณ 19 ล้านตัว บริโภคในประเทศ 18 ล้านตัว ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 1 ล้านตัว คาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีสุกรหายไปจากระบบ เหลือประมาณ 13 ล้านตัว จาก 19 ล้านตัว ทำให้ขาดสุกรประมาณ 5 ล้านตัวสำหรับการบริโภค

ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณา ห้ามส่งออกสุกรมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2565 ถึง วันที่ 5 เม.ย. 2565 เป็นการชั่วคราว และจะพิจารณาตามสถานการณ์ว่าควรให้มีการต่ออายุหรือไม่ โดยติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิด คาดว่าจะช่วยให้มีหมูเป็นกลับเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมประมาณ 1 ล้านตัว

นอกจากนี้ยังสั่งการให้ผู้เลี้ยงที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บสต๊อกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ให้ดำเนินการแจ้งสต๊อกและแจ้งราคาให้กรมการค้าภายในรับทราบ ทุก 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป เพื่อให้ทราบปริมาณหมูเป็นทั้งหมดที่อยู่ในระบบ ตลอดจนหมูแช่แข็ง แช่เย็น ทั้งประเทศว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อพิจารณาแก้ไขปัญหาร่วมกันกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในจะทำงานร่วมกันกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ให้ได้ตัวเลขที่ใกล้เคียงความจริงที่สุด ส่วนการจำหน่ายเนื้อหมูกำหนดให้มีการติดป้ายราคาจำหน่ายห้ามขายเกินราคาป้ายที่กำหนดไว้ รวมทั้งดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฏหมายทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พาณิชย์จังหวัดและกรมการค้าภายในรวมทั้งปศุสัตว์ ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการขายเกินราคา การเข้าข่ายค้ากำไรเกินควรก็ตาม และที่ประชุมยังมีมติเพิ่มเติมให้กรมปศุสัตว์ในฐานะหน่วยงานเจ้าของเรื่องโดยตรง ผลิตสุกร เข้าสู่ระบบเร่งดำเนินการ ส่งเสริมการเลี้ยงสุกรเพิ่มเติมเพื่อให้สุกรมีเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศโดยเร็วที่สุด

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: