Booking.com เผยเทรนด์ท่องเที่ยวปี 2566 จากแบบสอบถาม 24,000 คน ใน 32 ประเทศ พบคนไทยพร้อมเที่ยวแบบ “ตัดขาดโลกภายนอก” และกล้าที่จะ “ก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน” มากขึ้น
ผู้คนทั่วโลกต่างมองอนาคตของการเดินทางปี 2566 ในเชิงบวกมากขึ้นกว่าปี 2565 แม้ปัจจุบันสถานการณ์ความไม่มั่นคง หรือความวุ่นวายต่างๆ ยังคงเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในโลกของเรา ไม่ว่าจะเป็นสงคราม การแบ่งขั้วทางสังคมที่ขยายกว้างขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังส่งผลกระทบต่อโลกอย่างเห็นได้ชัด แต่ 73% ของผู้เดินทางชาวไทยเชื่อมั่นว่าการเดินทางยังคงมีคุณค่าต่อจิตใจและการใช้ชีวิตของพวกเขาอยู่เสมอ
เมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. 2565 Booking.com ได้เผยแพร่แบบสำรวจความคิดเห็นของผู้เดินทางเพื่อคาดการณ์เทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวปี 2566 โดยสอบถามผู้เดินทางกว่า 24,000 คนจาก 32 ประเทศและจุดหมายปลายทางทั่วโลก ซึ่งเผยให้เห็นถึงความต้องการของผู้เดินทางในการปรับสมดุลระหว่างสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาให้เข้ากับภาระหน้าที่ในชีวิตประจำวัน ท่ามกลางยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ปี 2566 จะเป็นปีที่ผู้เดินทางปรับมุมมองต่อการท่องเที่ยวใหม่อีกครั้งอย่างสร้างสรรค์ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลก
- แดนสวรรค์ของนักเอาตัวรอด
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราต้องเผชิญกับเหตุการณ์มากมายไม่ว่าจะเป็น ภัยธรรมชาติ ความปั่นป่วนทางการเมือง และสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลก ที่อาจทำให้บางคนรู้สึกหมดกำลังใจและไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายเหมือนแต่ก่อน ซึ่งในขณะเดียวกันความวุ่นวายเหล่านี้ กลับทำให้ผู้เดินทางหันมาสนใจการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนในกระท่อมที่หลบซ่อนตัวกลางป่า สนุกสนานกับการตั้งแคมป์ ทำอาหารรอบกองไฟ และการใช้เข็มทิศเดินทาง หรือที่เรียกว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบ “ตัดขาดจากโลกภายนอก” (off-grid) ซึ่งจะเป็นที่นิยมมากขึ้นในปี 2566 นี้ โดยผลสำรวจเผยให้เห็นถึงความต้องการที่น่าสนใจของผู้เดินทางชาวไทย ดังนี้
- 70% ของผู้เดินทางชาวไทยอยากสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่เรียบง่ายและอยู่ได้ด้วยเพียงสิ่งจำเป็นในชีวิตมากขึ้น (back-to-basics)
- 69% มองหาการพักผ่อนแบบ "ตัดขาดจากโลกภายนอก" เพื่อหลีกหนีจากความวุ่นวายในโลกความเป็นจริง
- 78% กระตือรือร้นที่จะใช้การเดินทางในปี 2566 เป็นโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการเอาตัวรอด ตั้งแต่วิธีการหาแหล่งน้ำสะอาด (70%) หัดก่อไฟจากวัสดุในธรรมชาติ (56%) หาอาหารในป่า (61%) ไปจนถึงการฝึกซ้อมและเตรียมพร้อมสำหรับวันสิ้นโลก (59%)
แม้จะอยากหลีกหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอกเพียงใด แต่ผู้เดินทางชาวไทยมากกว่าครึ่ง (53%) ก็ยังมีเงื่อนไขจำเป็นในการเดินทางที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ การเชื่อมต่อโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตในจุดหมายปลายทางที่พวกเขาเลือกเดินทางไป
- นักท่องโลกเสมือนจริง
ผู้เดินทางชาวไทยส่วนใหญ่ (72%) เผยว่าพวกเขาวางแผนจะเข้าสู่โลกเสมือนจริง (Virtual Reality) ในปีหน้าเพื่อสร้างแรงบันดาลใจสำหรับทริปพักผ่อน ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวจะถูกผสมผสานเข้ากับโลก 3 มิติเสมือนจริงบนจักรวาล Metaverse อย่างเต็มรูปแบบมากขึ้นในปี 2566 ที่จะถึงนี้
- 66% ของผู้เดินทางชาวไทยอยากสัมผัสประสบการณ์การเดินทางในโลกเสมือนจริง (Virtual Reality หรือ VR) แบบนานหลายวัน
- 75% มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่พวกเขาไม่เคยนึกถึงมาก่อน ถ้าได้ลองท่องเที่ยวในโลกเสมือนจริง
ในอนาคตจักรวาล Metaverse จะเป็นมากกว่าแค่สถานที่สำหรับการ “ลองใช้จริงก่อนจะซื้อ” แต่จะกลายเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ ให้ความบันเทิง สร้างแรงบันดาลใจ และช่วยให้ผู้คนได้สัมผัสการผจญภัยแบบไร้ขีดจำกัด ซึ่งในท้ายที่สุดจะทำให้ผู้เดินทางจะมีความกล้ามากขึ้นในการตัดสินใจออกเดินทางในชีวิตจริง หลังจากได้ลองสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวเสมือนจริงเหล่านั้นผ่านทางร่างจำลองของพวกเขาบนโลกออนไลน์ ซึ่งแนวคิด Metaverse จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้เดินทางที่ยังลังเลที่จะออกเดินทางไปยังที่แห่งใหม่ หรือจุดหมายที่พวกเขายังไม่เคยไป
- สนุกไปกับสิ่งที่ไม่คุ้นเคย
ในปี 2566 ผู้เดินทางจะมองหาทริปท่องเที่ยวสุดแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ที่จะทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตาตื่นใจได้ตลอดการเดินทาง โดย 96% ของผู้เดินทางชาวไทยตั้งตารอที่จะได้สัมผัสกับการเดินทางแบบ “ก้าวออกจากคอมฟอร์ทโซน” ที่ผลักดันให้ผู้เดินทางได้ออกไปเผชิญกับสิ่งที่เหนือขีดจำกัดและความคาดหมายของพวกเขา ซึ่งประสบการณ์เดินทางแบบออกนอกกรอบที่ผู้เดินทางชาวไทยสนใจ มีดังนี้
- 80% ของผู้เดินทางชาวไทยต้องการสัมผัสกับความแตกต่างทางวัฒนธรรมอย่างสิ้นเชิง (culture shock) ในปี 2566 ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่มีวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างจากที่ตนเองคุ้นเคย (67%) หรือการสำรวจเมืองที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักซึ่งมีของดีซ่อนอยู่และยังไม่อยู่ในกระแส (28%)
- 62% พร้อมสำหรับการลองเปิบพิสดาร เช่น พริกที่เผ็ดที่สุดในโลก
- 65% ต้องการใช้วันหยุดไปกับการสำรวจเรื่องผู้มาเยือนจากนอกโลก เช่น จานบิน UFO หรือทริปส่องมนุษย์ต่างดาว
- 32% ต้องการซื้อตั๋วเที่ยวเดียวในปี 2566 และออกเดินทางตามสัญชาตญาณไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหน
- ย้อนสู่วันวานที่น่าจดจำ
ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทั่วโลกและความปรารถนาที่จะหลบหนีความวุ่นวายในโลกความเป็นจริง ผู้เดินทางต่างใฝ่หาประสบการณ์การท่องเที่ยวที่พาพวกเขาย้อนเวลากลับไปสู่ยุคที่ทุกอย่างเรียบง่ายกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน โดย 95% ของผู้เดินทางชาวไทยต้องการไปพักผ่อนในทริป “หวนคิดถึงอดีต” ที่ให้ความสุขในการรำลึกถึงวันวานเก่าๆ ที่น่าจดจำ อันเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่จะมาแรงในปี 2566 และมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆของแผนการเดินทาง ผลการสำรวจยังเผยให้เห็นว่าผู้เดินทางทุกวัยต่างปรารถนาที่จะได้สัมผัสถึงความโรแมนติกของโลกในยุคก่อนดิจิทัล แม้แต่คนรุ่นมิลเลนเนียลและ Gen-Z ที่ไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้มาก่อน
- 31% ของผู้เดินทางชาวไทยมองหาประสบการณ์ที่ชวนให้นึกถึงความทรงจำในอดีต เช่น การเยี่ยมชมสถานที่สำคัญหรือสถานที่ท่องเที่ยวที่ปรากฎในภาพยนตร์ย้อนยุคอันโด่งดัง
- 70% ไม่ได้ต้องการแค่เพียงหยุดพักเพื่อผ่อนคลายอีกต่อไป แต่ต้องการประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบตื่นเต้นเร้าใจที่สามารถกระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีนของพวกเขา เช่น การเที่ยวสวนสนุก และการได้ใช้จินตนาการไปกับกิจกรรมต่างๆ เช่น เกมห้องหลบหนี (Escape Room) และเกมล่าสมบัติ
- เดินทางแสวงความสุขและความสงบ
การท่องเที่ยวในปี 2566 จะเบนเข็มไปในทิศทางของการบำบัดและยกระดับ “ร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ” ของผู้เดินทางมากขึ้น โดย 77% ของผู้เดินทางชาวไทยมองหาการพักผ่อนเพื่อดูแลจิตใจ และสถานที่ผ่อนคลายเพื่อการฝึกทำสมาธิ
- 68% ต้องการพบความสบายใจในสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบ
- 65% อยากหยุดพักเพื่อฟื้นฟูสุขภาพโดยเฉพาะสุขภาพจิต และเพื่อมองหาการดูแลสุขภาพกายและใจในรูปแบบใหม่ รวมทั้งเวลาในการดูแลตัวเองในช่วงเวลาสำคัญหรือเปลี่ยนผ่านของชีวิต เช่น ทริปพักผ่อนในวัยหมดประจำเดือน หรือทริปพักผ่อนระหว่างตั้งครรภ์
- 55% อยากทดลองการบำบัดสุขภาพทางเลือกด้วยสารจากธรรมชาติ เช่น กัญชา และสารสกัดจากพืชที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทอย่าง อายาวัสกา หรือเห็ดเมา เพื่อสัมผัสประสบการณ์ทางจิตวิญญาณที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
- พักจากการตอกบัตร สู่ทริปเติมไฟให้เหล่าคนทำงาน
การเปลี่ยนแปลงจากนโยบาย “ทำงานจากที่ใดก็ได้” ที่ตอนนี้เกือบจะเป็นเรื่องธรรมดาพอๆ กับวันหยุดประจำปี พนักงานต่างมองหาวิธีการเก็บวันลาพักร้อนไว้เพื่อการท่องเที่ยวผ่อนคลายแบบตัดขาดจากการทำงานอย่างแท้จริง
- 75% อยากมีเวลาท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนจริงๆ โดยไม่ต้องทำงานเลยในปี 2566 นี้
- 59% ไม่สนใจทำงานในขณะที่ท่องเที่ยวพักผ่อน แต่มีความคิดที่จะเข้าร่วมทริปพักผ่อนของบริษัท
การเดินทางเพื่อธุรกิจจะกลับมาอีกครั้งในปี 2566 แต่จะแตกต่างจากการท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจในช่วงก่อนโควิด เพราะพนักงานต่างมองหาโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์เหนียวแน่นระหว่างทีมผ่านการใช้ชีวิตจริงร่วมกันมากขึ้น ที่ไม่ใช่แค่ในออฟฟิศ
- 65% ของพนักงานไทยอยากให้นายจ้างวางแผนทริปการเดินทางเพื่อทำงาน “ในชีวิตจริง” เพื่อให้พนักงานในบริษัทที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานได้มีโอกาสมาพบปะกัน
- 69% อยากให้นายจ้างใช้งบประมาณที่สะสมไว้ในช่วงที่มีการทำงานนอกสำนักงาน หรือ WFH หรือการทำงานแบบไฮบริดทั้งในและนอกสำนักงานมาใช้ในการจัดทริปท่องเที่ยวของบริษัท
- 73% เชื่อว่าการได้สำรวจสถานที่ใหม่ๆ จะสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำงานอย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
- ประหยัดไว้ ค่อยใช้เมื่อถึงโอกาส
ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทั่วโลกในปี 2566 ผู้เดินทางจะยังคงให้ความสำคัญกับการเดินทาง แต่จะระมัดระวังการใช้จ่ายในการเดินทางมากขึ้นเพื่อความคุ้มค่าที่สุด
- 68% ของผู้เดินทางชาวไทยเผยว่าการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวยังมีความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ
- 82% ยังคงให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว แต่จะเลือกทริปที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดเท่านั้น
- 78% วางแผนค่าใช้จ่ายการเดินทางให้รัดกุมมากขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากโปรโมชัน ส่วนลด และช่วงเวลาเดินทางที่คุ้มราคาที่สุด
- 72% ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในการใช้จ่าย ด้วยการเลือกใช้ส่วนลดและโปรแกรมสมาชิกต่างๆ
- 73% จะประหยัดเงินโดยเลือกจุดหมายปลายทางนอกฤดูกาลท่องเที่ยวหรือเส้นทางที่ยาวกว่าในการเดินทาง
จากผลสำรวจพบว่า แม้พวกเขาจะระมัดระวังค่าใช้จ่ายมากเพียงใด แต่กับสิ่งที่พวกเขาชอบหรือตั้งตารอคอยสำหรับทริปเดินทางนั้นๆ ผู้เดินทางก็พร้อมที่จะหมุนการใช้จ่าย เพื่อใช้จ่ายอย่างเต็มที่กับสิ่งที่ความหมายมากที่สุดสำหรับพวกเขา
นางสาวมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงของ Booking.com กล่าวว่า “สถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการเดินทาง การคาดการณ์เทรนด์ท่องเที่ยวในปีนี้แสดงให้เห็นว่าผู้คนมีความปรารถนาที่จะเดินทางเพื่อแสวงหาช่วงเวลาแห่งความสุขและได้พักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่ต้องมาเสียดายเวลาในภายหลัง และเพื่อสร้างกำลังใจในการรับมือกับโลกความเป็นจริงอันหนักหน่วงที่ถูกตอกย้ำด้วยเรื่องราวข่าวสารมากมายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ด้วยเหตุนี้ Booking.com จึงเดินหน้าพัฒนาบริการและมุ่งมั่นในพันธกิจที่ต้องการช่วยให้ผู้คนได้ออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครได้อย่างง่ายดาย ตรงใจ และไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้นในปีหน้าและอนาคต”
*รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล: Booking.com เป็นผู้มอบหมายให้จัดการสำรวจข้อมูลเพื่อคาดการณ์การเดินทางในปี 2023 โดยได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งวางแผนที่จะเดินทางทริปธุรกิจหรือทริปพักผ่อนในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า ผู้เข้าร่วมการสำรวจมีจำนวนทั้งหมด 24,179 คนใน 32 ประเทศและดินแดน (จากอาร์เจนตินา 1,014 คน ออสเตรเลีย 1,006 คน ออสเตรีย 505 คน เบลเยียม 504 คน บราซิล 1,009 คน แคนาดา 503 คน จีน 1,009 คน โคลอมเบีย 1,010 คน โครเอเชีย 505 คน เดนมาร์ก 505 คน ฝรั่งเศส 1,010 คน เยอรมนี 1,001 คน ฮ่องกง 500 คน อินเดีย 1,005 คน ไอร์แลนด์ 504 คน อิสราเอล 504 คน อิตาลี 1,008 คน ญี่ปุ่น 1,003 คน เม็กซิโก 504 คน เนเธอร์แลนด์ 502 คน นิวซีแลนด์ 1,007 คน โปรตุเกส 1,009 คน สิงคโปร์ 507 คน เกาหลีใต้ 1,008 คน สเปน 1,001 คน สวีเดน 505 คน สวิตเซอร์แลนด์ 508 คน ไต้หวัน 500 คน ไทย 504 คน สหราชอาณาจักร 1,006 คน สหรัฐอเมริกา 1,009 คน และเวียดนาม 504 คน) โดยผู้เข้าร่วมได้ทำแบบสอบถามทางออนไลน์ในเดือนสิงหาคม 2565
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ