กรมสุขภาพจิตพร้อมเปิดห้องฝึกบูรณาการประสาทความรู้สึกเด็กทุกกลุ่มวัย ห่วงเด็กขาดการฝึกพัฒนาการ จากข้อจำกัดช่วงโควิดระบาด ขณะที่สายด่วนสุขภาพจิตพบเยาวชนโทรเข้ามาปรึกษาเหตุเครียดจากเรียนออนไลน์ เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 50% | ที่มาภาพประกอบ: มติชนออนไลน์

ช่วงต้นเดือน ม.ค. 2565 สำนักข่าวไทย รายงานว่าพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นประธานเปิดห้องฝึกบูรณาการประสาทความรู้สึกสำหรับเด็กทุกกลุ่มวัย Sensory Integration Room โดยกล่าวว่า ห้องดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการลดความบกพร่องของกระบวนการบูรณาการประสาทความรู้สึกในเด็ก ที่เป็นสาเหตุของปัญหาในเด็ก เช่น เด็กดื้อต่อต้าน เด็กที่เกียจคร้าน เด็กขี้อาย

การฝึกจะสามารถช่วยแก้ปัญหาด้านสมาธิและการควบคุมตนเองได้ โดยใช้รูปแบบทำกิจกรรมต่างๆ และได้ออกแบบเครื่องมือใช้ฝึกเฉพาะทาง ประกอบด้วย 1.ห้องสังเกตการณ์ เป็นส่วนรอคอยสำหรับผู้ปกครอง 2.ห้องประเมิน 3.ห้องAdventure room สีสันสดใสและมีอุปกรณ์ส่งเสริมการรับความรู้สึกพื้นฐานผ่านการเล่นเกมตามกติกา เพื่อควบคุมตนเองและการทรงตัว 4. Snoezelen(white room) เป็นห้องแสดงสีเสียงที่นุ่มนวลให้รู้สึกสงบผ่อนคลาย พร้อมฝึกด้านการรับรู้ และ5.Optic music room เป็นห้องฝึกการวางแผนเคลื่อนไหวและรับรู้ทางสายตาโดยใช้เกมและดนตรีให้เด็กพัฒนาด้านการคิดและการปรับตัว

พญ.อัมพร กล่าวอีกว่า กรมสุขภาพจิตมีเป้าหมายให้บริการบำบัดรักษา ให้บริการส่งเสริมพัฒนาการเด็กที่มีพัฒนาการช้า ส่งเสริมสติปัญญาและอารมณ์ ให้ครอบคลุมปัญหาเด็กที่พบในปัจจุบัน โดยให้บริการทั้งเด็กพิเศษและประชาชนทั่วไป ผู้ที่สนใจติดต่อเข้ารับบริการได้ที่สถาบันราชานุกูล 02-248-8900 ต่อ 70510 เพื่อนัดหมายเข้าบริการตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด โดยวันนี้กรมสุขภาพจิตยังได้ร่วมภาคีเครือข่าย จัดถุงของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กคนพิเศษที่อยู่ระหว่างการรักษา เสริมสร้างกำลังใจให้ทั้งเด็กและผู้ปกครองในช่วงสถานการณ์โควิด19 ทั้งนี้ยังมีการจัดกิจกรรมค่ายเสริมพลังรักฝ่าวิกฤติ ในโครงการฝากใจให้เราดูแล สำหรับครอบครัวผู้ป่วยกลุ่มที่เข้ารีบการบำบัดรักษา ส่วนการดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด19สำหรับกลุ่มที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา กรมสุขภาพจิตได้ให้บริการไปแล้วกว่า 3 หมื่นราย และสามารถเข้ารับบริการได้อย่างสะดวก โดยพ่อแม่ผู้ปกครองที่ต้องการปรึกษาปัญหาในการดูแลลูก หรือความเครียดสุขภาพจิต สามารถโทรเข้ามาปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 โดยจากข้อมูลพบว่า มีเยาวชนอายุ15-19 ปีโทรเข้ามาปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต เพิ่มขึ้นจากช่วงปกติมากกว่าร้อยละ 50 โดยพบว่ามีความเครียดจากการเรียนออนไลน์มากที่สุด