คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จัดทำโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ ปี 2565-2568 ชี้ผู้ใช้ไฟฟ้า 13.14 ล้านรายได้ประโยชน์ ส่วนการไฟฟ้ารายได้ลด 2,440 ล้านบาทต่อปี
Energy News Center รายงานเมื่อช่วงต้นเดือน ต.ค. 2565 ว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เปิดรับฟังความเห็นร่างโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ปี 2565-2568 ระหว่างวันที่ 3-17 ต.ค. 2565 ผ่านทางเว็บไซต์ กกพ. www.erc.or.th เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา
โดยสาระสำคัญของร่างโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปี 2565-2568 ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนคือ อัตราค่าบริการรายเดือนที่การไฟฟ้าเรียกเก็บจากประชาชนทุกเดือนนั้น จะมีอัตราที่ลดลงในบางกลุ่ม ได้แก่ 1. บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 150 หน่วยต่อเดือน และผู้ใช้อัตราค่าไฟฟ้าตามช่วงเวลาการใช้งาน (TOU) แบบแรงดันต่ำกว่า 22 kV/ต่ำกว่า 12 kV จะมีอัตราค่าบริการรายเดือนถูกลง 13.60 บาทต่อเดือน จากปัจจุบันการไฟฟ้าเรียกเก็บค่าบริการอยู่ที่ 38.22 บาทต่อเดือน จะเหลือเพียง 24.62 บาทต่อเดือน
2. กลุ่มกิจการขนาดเล็ก ทั้งแบบที่ใช้อัตราค่าไฟฟ้าปกติและแบบ TOU แรงดันต่ำกว่า 22 kV จะได้รับอัตราค่าบริการที่ถูกลง 12.87 บาทต่อเดือน จากปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ 46.16 บาทต่อเดือน จะเหลือ 33.29 บาทต่อเดือน และ 3.กลุ่มกิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร ที่ใช้อัตราค่าไฟฟ้าแบบ TOU ทุกระดับแรงดัน จะมีอัตราค่าบริการรายเดือนถูกลง 24.10 บาทต่อเดือน จากปัจจุบันเรียกเก็บอยู่ 228.17 บาทต่อเดือน จะเหลือ 204.07 บาทต่อเดือน
ทั้งนี้ กกพ. คาดว่าจะทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 13.14 ล้านราย จ่ายค่าบริการรายเดือนลดลง แต่ก็จะกระทบต่อรายได้การไฟฟ้าให้ลดลงประมาณ 2,440 ล้านบาทต่อปีด้วย
สำหรับอัตราค่าบริการไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท Prosumer หรือผู้ใช้ไฟฟ้าที่หันมาผลิตไฟฟ้าร่วมด้วย และ Green Power Program หรือผู้ใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดนั้น จากข้อมูล กกพ. เมื่อเดือน มิ.ย. 2565 มีผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท Prosumer ประมาณ 7,228 ราย กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,058 เมกะวัตต์ หรือ 0.01% ของสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ ซึ่งถือว่าน้อยมาก ดังนั้นทาง กกพ. จะศึกษาและกำหนดอัตราค่าบริการที่เหมาะสมต่อไป เช่นเดียวกับผู้ใช้กลุ่ม Green Power Program กกพ.ก็อยู่ระหว่างการศึกษาอัตราที่เหมาะสมเช่นกัน
และสำหรับมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยนั้น จะมีการตรวจสอบความซ้ำซ้อนของสิทธิ์ผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีบ้านหลายหลัง เพื่อให้ผู้ใช้ไฟฟ้าได้รับสิทธิ์เพียง 1 สิทธิ์ต่อหนึ่งครัวเรือนต่อเดือน และต่อหนึ่งหมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น โดยจะมีการกำหนดคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ ซึ่งจะบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม กับผู้ขึ้นทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต่อไป
นอกจากนี้การกำหนดโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ ยังกำหนดอัตราค่าไฟฟ้าสำหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้ายานยนต์ไฟฟ้าสาธารณะ(Public EV Charger) ที่เป็นค่าพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น ซึ่งไม่รวมค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft),ค่าใช้จ่ายตามนโยบายของรัฐ(PE) และค่าบริการรายเดือน โดยมีอัตราอยู่ที่ 2.9162 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และไม่มีค่าความต้องการพลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้หากภาครัฐมีนโยบายที่จะกำหนดให้ราคาต่ำกว่าอัตราดังกล่าว ภาครัฐอาจพิจารณานำเงินงบประมาณจากส่วนอื่นๆ มาอุดหนุนให้ราคาลดลงได้
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ