ผลสำรวจชี้ 70% ของบริษัทในอุตสาหกรรมอาหารกำลังเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่ปลอดกรง

กองบรรณาธิการ TCIJ 25 ก.ค. 2565 | อ่านแล้ว 2370 ครั้ง

ผลสำรวจชี้ 70% ของบริษัทในอุตสาหกรรมอาหารกำลังเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่ปลอดกรง

รายงานฉบับใหม่เผย ความสนใจเรื่องสวัสดิภาพสัตว์ในอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มสูงขึ้น ผลสำรวจโดยองค์กรพิทักษ์สัตว์ซิเนอร์เจีย แอนิมอลชี้ว่า 70% ของบริษัทในอุตสาหกรรมอาหารกำลังเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่ปลอดกรง

25 ก.ค. 2565 องค์กรพิทักษ์สัตว์สากลซิเนอร์เจีย แอนิมอลเผยแพร่ผลการสำรวจบริษัทในอุตสาหกรรมอาหารกว่า 50 แห่ง ซึ่งระบุว่าร้อยละ 70 ของบริษัทอาหาร (35 แห่ง) เริ่มลดการใช้ไข่ไก่จากฟาร์มระบบกรงตับแล้ว ระบบกรงตับเป็นวิธีการเลี้ยงสัตว์ในกรงขนาดเล็ก ที่แคบเสียจนสัตว์เคลื่อนไหวแทบไม่ได้ รายงานฉบับดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า Cage-Free Tracker ประกอบไปด้วยนโยบายของบริษัทต่างๆ จากประเทศในทวีปเอเชีย 5 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย และไทย

ในบรรดาบริษัททั้ง 35 แห่งนี้ มี 8 แห่งที่แสดงหลักฐานความคืบหน้าของการเปลี่ยนไปใช้ไข่ไก่ปลอดกรงในตลาดเอเชียอย่างชัดเจน ได้แก่  Aramark, Kraft Heinz, Lotus’s, Marriott, Pizza Express, SaladStop!, Unilever และ Wyndham Destinations. 

“ทวีปเอเชียเป็นผู้ผลิตไข่รายใหญ่ที่สุดในโลก ไก่ในภูมิภาคนี้ วางไข่กว่า 1 พันล้านฟอง ทุกปี โดยส่วนใหญ่ถูกเลี้ยงไว้ในกรงตับ ซึ่งเป็นรูปแบบการกักขังที่โหดร้ายต่อสัตว์มาก และถูกห้ามใช้ในสหภาพยุโรป แคนาดา นิวซีแลนด์ และรัฐ 9 แห่งในสหรัฐอเมริกาแล้ว เรายินดีที่ผลการสำรวจของเราแสดงให้เห็นว่า บริษัทต่าง ๆ ในทวีปเอเชียตระหนักได้ว่าต้องเลิกใช้กรงตับและเปลี่ยนไปใช้หลักปฏิบัติที่ดีต่อสวัสดิภาพสัตว์มากขึ้น” พิชามญชุ์ ธมะสุข ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารระหว่างองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียจากซิเนอร์เจีย แอนิมอล กล่าว

ในระบบกรงตับ แม่ไก่แต่ละตัวต้องใช้ชีวิตในพื้นที่ที่เล็กกว่ากระดาษ A4 หนึ่งแผ่น ทำให้ไก่ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีความอยากรู้อยากเห็นตามธรรมชาติอยู่แล้วไม่สามารถแสดงพฤติกรรมพื้นฐานตามธรรมชาติ อาทิ เกาะคอน ทำรัง อาบฝุ่น หรือกางปีกได้อย่างเต็มที่ บริษัทที่นำนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงมาใช้ได้ให้คำมั่นที่จะใช้ไข่จากไก่ที่เลี้ยงในระบบปลอดกรงเท่านั้น ซึ่งไก่เหล่านี้ใช้ชีวิตและเดินไปมาได้อย่างมีอิสระมากขึ้น อีกทั้งยังแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้ อันเป็นสิ่งสำคัญต่อสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่ดี

ผลการสำรวจ

รายงาน Cage-Free Tracker Asia จัดอันดับบริษัทอาหารที่ประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงแล้ว และนำเสนอข้อมูลแก่ผู้บริโภคในรูปแบบอันดับที่เข้าใจได้ง่าย รายงานยังรวบรวมรายชื่อบริษัทที่ยังไม่ประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงอีกด้วย

ในอันดับล่างสุดประกอบด้วยบริษัทที่ไม่ประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงในประเทศไทย แม้ว่าแบรนด์ระดับโลกเหล่านี้จำนวนมาก อาทิ McDonald’s, Nissin, Kewpie ได้ให้คำมั่นในภูมิภาคอื่นๆ ของโลกแล้วก็ตาม

โครงการ Cage-Free Tracker Asia มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความโปร่งใสและติดตามความคืบหน้าของบริษัทต่างๆ ในคำมั่นว่าจะเลิกใช้กรงตับตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยบริษัททั้งหมด 26 แห่งที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทยตอบกลับ และร้อยละ 61.11 ของบริษัทเหล่านี้รายงานความคืบหน้าในการจัดหาไข่จากระบบปลอดกรง อาทิ Lotus’s, Kraft Heinz, และ Marriott

“เราคาดว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การผลิตไข่ไก่ในระบบปลอดกรงจะมีความคืบหน้ามากขึ้นในทวีปเอเชีย ผู้บริโภคเริ่มให้ความสนใจเรื่องที่มาของอาหารที่ตนรับประทานมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บริษัทต่างๆ หันมาปรับปรุงมาตรฐานด้านสวัสดิภาพสัตว์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม” พิชามญชุ์กล่าว

ไข่ไก่ปลอดกรง: เทรนด์ธุรกิจระดับโลก

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บริษัทอาหารกว่า 2,300 แห่งทั่วโลกได้ให้คำมั่นที่จะเลิกใช้ไข่จากฟาร์มที่เลี้ยงไก่ในกรงตับแล้ว และปัจจุบันทวีปเอเชียกำลังก้าวขึ้นเป็นภูมิภาคสำคัญที่ให้ความสนใจกับนโยบายนี้ โดยในปี 2021 เพียงปีเดียว ทวีปเอเชียมีธุรกิจที่ประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรงใหม่ถึง 36 แห่ง และมีธุรกิจระดับโลกอีก 23 แห่งที่ประกาศนโยบายไข่ไก่ปลอดกรง ซึ่งครอบคลุมทวีปเอเชีย

ซิเนอร์เจีย แอนิมอล  มีแผนที่จะดำเนินโครงการ Cage-Free Tracker Asia ร่วมกับบริษัทในทวีปเอเชียอย่างต่อเนื่องทุกปี “เราหวังว่า ความก้าวหน้าเหล่านี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทต่างๆ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเคลื่อนไหวระดับโลก เพื่อพัฒนาระบบอาหารให้เห็นอกเห็นใจสัตว์มากขึ้น” พิชามญชุ์กล่าวสรุป

อ่านรายงานฉบับเต็มและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทที่ดำเนินการในทวีปเอเชียได้ที่  [https://www.cagefreetracker.com/asia]



เกี่ยวกับซิเนอร์เจีย แอนิมอล

ซิเนอร์เจีย แอนิมอล เป็นองค์กรพิทักษ์สัตว์ระดับสากล ปฏิบัติงานในกลุ่มประเทศ Global South เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของสัตว์ในอุตสาหกรรมผลิตอาหารและส่งเสริมทางเลือกอาหารที่แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อสัตว์ เราได้รับการจัดอันดับโดย Animal Charity Evaluators (ACE) ให้เป็นหนึ่งในองค์กรพิทักษ์สัตว์ที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: