กระทรวงพลังงานตั้งคณะทำงาน เล็งปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลลง หลังราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ หรือ B100 ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565 พุ่งสูงอยู่ที่ 56.01 บาทต่อลิตร
เมื่อช่วงปลายเดือน ม.ค. 2565 Energy News Center รายงานอ้างแหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน ระบุว่าการตั้งคณะทำงานศึกษาการปรับสัดส่วนการผสมน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100% (B100) ในน้ำมันดีเซล ที่จะศึกษาว่าควรจะต้องมีการปรับลดชนิดน้ำมันดีเซลชนิดใดออกจากตลาด นั้นมีอธิบดีกรมธุรกิจพลังงานเป็นประธาน และกรรมการคนอื่นๆ อาทิ ผู้แทนจากสำนักงานโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.), สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ซึ่งจะดำเนินการศึกษาให้ได้ข้อสรุปก่อนสิ้นเดือน มี.ค. 2565
โดยปัจจุบันมีน้ำมันดีเซลจำหน่ายอยู่ในตลาด 4 เกรด คือ น้ำมันดีเซล (B10), น้ำมันดีเซล B7, น้ำมันดีเซล B20 และน้ำมันดีเซล เกรดพรีเมียม แต่ปัจจุบันคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติให้จำหน่ายน้ำมันดีเซล B7 เพียงเกรดเดียว ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2565 เพื่อลดผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกและราคา B100 ที่พุ่งสูงขึ้น
โดยราคา B100 ณ วันที่ 18 ม.ค. 2565 อยู่ที่ 56.01 บาทต่อลิตร ดังนั้นหากถึงสิ้นเดือน มี.ค. 2565 และต้องกลับมาใช้น้ำมันทั้ง 4 เกรด เหมือนเดิม การผสม B100 ที่มีราคาแพง ในสัดส่วนที่มากกว่า B7 จะยิ่งทำให้ต้นทุนน้ำมันดีเซลแพงเกินกว่า 30 บาทต่อลิตร
ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง มีภาระต้องชดเชยราคาดีเซลที่ 2.49 บาทต่อลิตร ทำให้ราคาดีเซล ณ วันที่ 20 ม.ค. 2565 ยังอยู่ที่ระดับ 29.94 บาทต่อลิตร (เฉพาะ PTT Station และบางจาก ส่วนผู้ค้ารายอื่นปรับราคาขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตรไปแล้ว) โดยสถานะกองทุนน้ำมันติดลบหนักกว่า 8,000 ล้านบาท
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ