เกษตรกรใต้วอนรัฐกวาดล้าง 'หมูเถื่อน' ต่อเนื่อง ก่อนผู้เลี้ยงสู้ไม่ไหว

กองบรรณาธิการ TCIJ 30 ต.ค. 2565 | อ่านแล้ว 1870 ครั้ง

เกษตรกรใต้วอนรัฐกวาดล้าง 'หมูเถื่อน' ต่อเนื่อง ก่อนผู้เลี้ยงสู้ไม่ไหว

สมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้วอนรัฐกวาดล้าง 'หมูเถื่อน' ต่อเนื่อง ก่อนผู้เลี้ยงสู้ไม่ไหว พบยังมีการขายกันทั่วประเทศ ทั้งในท้องตลาดและเสนอขายผ่านโลกออนไลน์ในราคาต่ำมากที่ 130-140 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีความกังวลต่ออาชีพเนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ยอดขายหมูทรงตัวหรือถดถอยลง | ที่มาภาพ: สยามรัฐ

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ รายงานเมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค. 2565 ว่านายปรีชา กิจถาวร นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ เปิดเผยว่า หมูเถื่อนยังเป็นปัญหาสำหรับผู้เลี้ยง โดยยังมีการขายกันทั่วประเทศ ทั้งในท้องตลาด และเสนอขายผ่านโลกออนไลน์ ในราคาต่ำมากที่ 130-140 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรมีความกังวลต่ออาชีพ เนื่องจากหมูลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ยอดขายหมูทรงตัวหรือถดถอยลง ขณะที่ธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้อย่างเช่นจังหวัดสงขลา และฝั่งทะเลอันดามัน ทั้งภูเก็ต กระบี่ พังงา ซึ่งถือเป็นตลาดผู้บริโภครายใหญ่กำลังเติบโตขึ้น โดยปกติจะมีความต้องการบริโภคหมูเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ปัจจุบันตลาดหมูกลับไม่คึกคัก ภาคผู้เลี้ยงจึงคาดว่ามีเป็นหมูเถื่อนทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลกระทบนี้เกิดขึ้นกับผู้เลี้ยงหมูทั้งอุตสาหกรรม ทั้งเกษตรกรรายเล็ก รายย่อย ที่ต้องล้มหายตายจากไป เพราะสู้กับต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงที่ปรับขึ้นทุกตัวไม่ไหว ทั้งราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ค่าพลังงาน ค่าเวชภัณฑ์ ค่าแรงงาน ขณะที่ผู้เลี้ยงรายกลางและรายใหญ่ก็ดำเนินธุรกิจอย่างยากลำบากเช่นกัน

"ที่ผ่านมาผู้ลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนหรือหมูกล่องนำเข้ามาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ แล้วนำใส่กล่องโฟมกระจายไปทั่วประเทศ การแก้ปัญหาทางกรมปศุสัตว์ที่ดำเนินการอยู่จะต้องเข้มแข็งขึ้น จับแล้วต้องทำลาย คิดว่าจะทำให้ผู้ค้าหมูเถื่อนไม่กล้านำเข้า และจะทยอยหายไป ขณะเดียวกันกรมศุลกากรที่เป็นหน้าด่านก็ต้องผนึกกำลังกันล้างบางขบวนการทำลายชาตินี้ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด เพื่อปกป้องอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ปกป้องเศรษฐกิจชาติ และปกป้องความมั่นคงและความปลอดภัยในอาหารให้กับคนไทย” นายปรีชากล่าว

นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงสุกรภาคใต้ กล่าวอีกว่า เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมฯได้ร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง จัดสัมมนาการผู้เลี้ยงหมูแบบปลอดภัย มีมาตรฐาน ตามนโยบายกรมปศุสัตว์ที่ส่งเสริมการเลี้ยงหมูในการกลับมาเลี้ยงใหม่ ที่ จ.พัทลุง ซึ่งเป็นพื้นที่เลี้ยงหมูรายใหญ่อันดับ 1 ของภาคใต้ มีประชากรหมูเกือบ 5 แสนตัว พบว่าเกษตรกรตื่นตัวมากอยากกลับมาเลี้ยงหมูให้ปลอดภัยจากโรคและการผลิตมีประสิทธิภาพดี ผลผลิตที่ได้มีประปริมาณพอสมควร อย่างไรก็ตามภาคผู้เลี้ยงยังกังวลกับอนาคตของอาชีพ เพราะถึงแม้ธุรกิจท่องเที่ยวจะเติบโตและปกติความต้องการบริโภคหมูจะพุ่งสูง แต่ขณะนี้ความต้องการซื้อหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มกลับทรงตัว เหตุเพราะหมูเถื่อนยังเกลื่อนเมือง ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูพัทลุงต้องเบรกการลงเลี้ยงหมูรอบใหม่ เนื่องจากหมูเถื่อนมีต้นทุนต่ำ เกษตรกรสู้ราคาไม่ไหว

“ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนมาวางขายทั่วประเทศในราคาถูกกว่าหมูในประเทศ โดยเฉพาะหมูเนื้อแดงเถื่อนราคาขายอยู่ที่ 130-140 บาท/กก. ขณะที่หมูเนื้อแดงที่เลี้ยงภายในประเทศวางขายอยู่ที่ 180-200 บาท/กก. จากต้นทุนการผลิตที่สูงถึง 99-100 บาทต่อกิโลกรัม แต่เกษตรกรยังคงร่วมกันรักษาระดับราคาขายหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม มานานกว่า 23 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูชาวพัทลุงรวมกว่า 5 พันราย ยังคงวิตกกังวล ไม่กล้าตัดสินใจลงทุนเลี้ยงหมูรอบใหม่ เพราะต้นทุนในการเลี้ยงสูงและมีปัญหาหมูเถื่อนมาสมทบ เรื่องนี้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องต้องเร่งปราบปรามและจบปัญหานี้ให้เร็วที่สุด เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้เลี้ยง และสร้างความมั่นคงทางอาหารของไทย ก่อนที่เกษตรกรจะถอดใจเลิกเลี้ยงหมูทั้งประเทศ” นายปรีชา กล่าวทิ้งท้าย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: