ย้อนดูโศกนาฏกรรมจากเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ

กองบรรณาธิการ TCIJ 30 พ.ค. 2565 | อ่านแล้ว 6964 ครั้ง


สื่อ 'VOA' พาย้อนดูโศกนาฏกรรมจากเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ ในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา - 'ไบเดน' ย้ำ 'เราต้องลงมือจัดการ' หลังเกิดเหตุยิงกราดที่โรงเรียนประถมในเท็กซัส เรียกร้องให้มีการออกกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อจำกัดการจำหน่ายอาวุธปืนในสหรัฐฯ | ที่มาภาพประกอบ: Jose Carlos Fajardo/Bay Area News Group

เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค. 2565 VOA รายงานว่าหลังเหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนกราดยิงเหยื่อที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัส ทำให้มีนักเรียนเสียชีวิต 19 คนและครูเสียชีวิต 2 ราย เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2022

ส่วนมือปืนถูกปลิดชีพในที่เกิดเหตุ ณ โรงเรียน Robb Elementary School ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองยูวัลดี ห่างจากนครซานอันโตนิโอไปทางตะวันตก 130 กิโลเมตร

เหตุการณ์นี้เป็นโศกนาฏกรรมครั้งล่าสุดที่ เกิดขึ้นจากการกราดยิงในสหรัฐฯ

ในปีที่เเล้วมีเหตุกราดยิงเหยื่อโดย "active shooter" หรือมือปืนที่จงใจก่อเหตุในสถานที่ที่มีคนอยู่จำนวนมากทั้งหมด 61 ครั้ง ซึ่งถือว่าเกิดบ่อยครั้งขึ้น และมีจำนวนผู้บาดเจ็บเเละเสียชีวิตมากกว่าปีก่อนด้วย

ข้อมูลด้านล่างแสดงให้เห็นถึงโศกนาฏกรรมจากเหตุยิงกราดครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วง 13 ปีที่ผ่านมา

14 พ.ค. 2565 ที่เมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ชายผิวขาวยิงคนผิวดำเสียชีวิต 10 คน ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตเเห่งหนึ่ง

12 เม.ย. 2565 ที่มหานครนิวยอร์ก มีผู้บาดเจ็บ 23 คน จากการใช้ระเบิดควันและปืนเป็นอาวุธที่สถานีรถไฟใต้ดินของระบบขนส่งมวลชนของนิวยอร์ก

20 พ.ย. 2564 ที่เมืองอ็อกซ์ฟอร์ด รัฐมิชิแกน นักเรียนเสียชีวิต 4 ราย ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง

16 เม.ย. 2564 ที่เมืองอินเดียนาโพลิส รัฐอินเดียนา เสียชีวิต 8 รายที่สถานที่ของบริษัทจัดส่งพัสดุ FedEx

31 มี.ค. 2564 ที่นครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เสียชีวิต 4 ราย รวมเด็กหนึ่งคน จากการยิงกราดที่อาคารสำนักงาน

22 มี.ค. 2564 ที่เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด เสียชีวิต 10 ราย รวมเจ้าหน้าที่ตำรวจหนึ่งรายจากการยิงกราดที่ซูเปอร์มาร์เก็ต

16 มี.ค. 2564 ที่นครแอตเเลนตา รัฐจอร์เจีย เสียชีวิต 8 ราย รวมสตรีเชื้อสายเอเชีย 6 คนที่ร้านสปาและสถานที่อื่น ๆ ในวันเดียวกัน

26 ก.พ. 2563 ที่นครมิลวอคกี รัฐวิสคอนซิน มือปืนสังหารเพื่อนร่วมงาน 5 คน ที่สถานที่ของบริษัท Molson Coors Beverage Co

4 ส.ค. 2562 ที่เมืองเดย์ตัน รัฐโอไฮโอ เสียชีวิต 9 คน ซึ่งรวมถึงพี่สาวหรือน้องสาวของมือปืนหนึ่งราย

3 ส.ค. 2562 ที่เอล ปาโซ รัฐเท็กซัส เสียชีวิต 22 รายที่ร้านวอลมาร์ท

31 ก.ค. 2562 ที่เมืองเวอร์จิเนียบีช รัฐเวอร์จิเนีย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่งยิงเหยื่อเสียชีวิต 12 รายที่ตึกทำการของรัฐ

15 ก.พ. 2562 ที่เมืองออโรร่า รัฐอิลลินอยส์ เสียชีวิต 5 รายที่โรงงานแห่งหนึ่ง ผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานที่ถูกไล่ออกก่อนหน้านี้

7 พ.ย. 2561 ที่เมืองเธาซันด์ โอคส์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เสียชีวิต 12 รายที่บาร์แห่งหนึ่ง ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตนาวิกโยธินที่เคยรบในสงคราม

27 ต.ค. 2561 ที่นครพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย เสียชีวิต 11 รายที่ศาสนสถานชาวยิว ขณะกำลังมีพิธีศาสนา

18 พ.ค. 2561 ที่นครซานตาเฟ รัฐเท็กซัส นักเรียนวัย 17 ปียิงสังหารเหยื่อที่เป็นนักเรียน 9 คนและครู 1 คน

14 ก.พ. 2561 ที่เมืองพาร์คเเลนด์ รัฐฟลอริดา อดีตนักเรียนยิงสังหารเหยื่อ 17 รายที่เป็นนักเรียนและครูที่โรงเรียนมัธยมปลายเเห่งหนึ่ง

5 พ.ย. 2560 ที่เมืองซัทเธอร์แลนด์ สปริงส์ รัฐเท็กซัส เสียชีวิต 26 ราย ผู้ก่อเหตุเป็นชายที่ถูกปลดออกจากกองทัพอากาศ ในข้อหาทุบตีลูกเเละภรรยา

1 ต.ค. 2560 ที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา เสียชีวิต 58 คนจากการยิงกราดลงมาจากห้องพักบนชั้น 32 ที่โรงเเรม ขณะมีมหกรรมดนตรีอยู่ด้านล่าง

12 มิ.ย. 2559 ที่ออร์เเลนโด รัฐฟลอริดา เสียชีวิต 49 ราย ที่ไนท์คลับเกย์

2 ธ.ค. 2558 ที่เมืองซานเบอร์นาร์ดิโน รัฐเเคลิฟอร์เนีย มือปืนที่เป็นสามีและภรรยายิงสังหารเหยื่อ 14 คนที่งานปาร์ตี้ของที่ทำงาน

1 ต.ค. 2558 ที่เมืองโรสเบิร์ก รัฐโอเรกอน เสียชีวิต 9 ราย ที่สถาบันอุดมศึกษาเเห่งหนึ่ง

17 มิ.ย. 2558 ที่เมืองชาร์ลสตัน รัฐเซาธ์เเคโรไลนา มือปืนผิวขาวที่มีความคิดสุดโต่งสังหารคนผิวดำ 9 คนที่โบสถ์แห่งหนึ่ง

16 ก.ย. 2558 ที่กรุงวอชิงตัน ลูกจ้างรัฐรายหนึ่งที่เป็นอดีตกำลังพลสำรองของกองทัพเรืออเมริกันสังหารเหยื่อ 12 คน ที่สถานที่ของกองทัพเรือในเมืองหลวงของสหรัฐฯ

14 ธ.ค. 2555 ที่เมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเน็กติกัต เสียชีวิต 26 ซึ่งรวมถึงเด็กอายุ 5-10 ปี 20 คน ที่โรงเรียนประถมเเห่งหนึ่ง

20 ก.ค. 2555 ที่เมืองออโรร่า รัฐโคโลราโด ชายสวมหน้ากากยิงสังหารเหยื่อ 12 คนที่โรงภาพยนตร์แห่งหนึ่ง

5 พ.ย. 2552 ที่เมืองฟอร์ด ฮูด รัฐเท็กซัส เสียชีวิต 13 รายที่ฐานทัพอเมริกัน โดยผู้ก่อเหตุเป็นทหารบกยศพันตรีและทำหน้าที่เป็นจิตเเพทย์

'ไบเดน' ย้ำ 'เราต้องลงมือจัดการ' หลังเกิดเหตุยิงกราดที่โรงเรียนประถมในเท็กซัส

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เรียกร้องให้มีการออกกฎเกณฑ์ใหม่เพื่อจำกัดการจำหน่ายอาวุธปืน หลังเกิดเหตุยิงกราดที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในรัฐเท็กซัส ซึ่งส่งผลให้มีนักเรียนอย่างน้อย 18 คนเสียชีวิต ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

ปธน.ไบเดน กล่าวระหว่างการแถลงสดผ่านสถานีโทรทัศน์ทั่วประเทศในช่วงค่ำของคืนวันอังคารจากทำเนียบขาว ว่า “เราต้องลงมือจัดการ(ได้แล้ว)” พร้อมตั้งคำถามว่า “(ไม่อย่างนั้น) เมื่อไหร่เราถึงจะลุกขึ้นยืนสู้กับพวกกลุ่มล็อบบี้อาวุธปืนกัน?”

ผู้นำสหรัฐฯ ซึ่งมีสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน ยืนเคียงข้างระหว่างการกล่าวแถลงด้วยอารมณ์เจ็บปวด ยังกล่าวด้วยว่า “นี่คือเวลาที่เราต้องเปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายมาเป็นการลงมือทำได้แล้ว”

เหตุยิงกราดครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้น ในเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ หลังเกิดการยิงกราดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน และบาดเจ็บ 3 คน โดยเชื่อว่า มีแรงจูงใจจาก "แนวคิดสุดโต่งรุนแรงด้านเชื้อชาติและสีผิว"

ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนเพิ่งเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของเหยื่อเหตุยิงกราดในนิวยอร์ก ก่อนจะออกเดินทางเยือนเอเชียเป็นเวลา 5 วัน

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวในระหว่างการแถลงด้วยว่า “การยิงกราดเช่นนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นที่ใดในโลกเลย ... ทำไม (ถึงเป็นเช่นนั้น)?”

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า เหตุสลดล่าสุดนี้จะส่งผลอย่างไรต่อทิศทางของนโยบายการเมืองที่เกี่ยวของกับการควบคุมอาวุธปืนในสหรัฐฯ หลังเหตุการยิงกราดหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง เหตุยิงกราดโรงเรียนประถมศึกษา Sandy Hook ในรัฐคอนเนตทิคัต เมื่อเดือนธันวาคมปี 2012 ซึ่งคร่าชีวิต 26 คน โดย 20 คนในนั้นเป็นเด็กอายุ 5-10 ปี ไม่ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เลย

รายงานข่าวระบุว่า คำเรียกร้องของปธน.ไบเดน ในการแถลงในคืนวันอังคารนั้น ถูก เฮอร์เชล วอล์กเกอร์ ผู้ลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา สังกัดพรรครีพับลิกัน ในรัฐจอร์เจีย หยิบยกขึ้นมาพูดถึงและเป็นประเด็นที่ผู้เข้าร่วมฟังการหาเสียงโห่ใส่ทันที ซึ่งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า นโยบายอาวุธปืนยังคงเป็นเรื่องที่มีผู้เห็นต่างอย่างมากอยู่

ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯ ได้สั่งการให้ทำเนียบขาวและอาคารที่ทำการของรัฐทั่วประเทศลดธงครึ่งเสาจนถึงเย็นวันเสาร์นี้ เพื่อเป็นเกียรติและไว้อาลัยแก่เหยื่อเหตุยิงกราดในเท็กซัส

ตอกย้ำประวัติศาสตร์กรณียิงกราดในเท็กซัส

VOA ยังรายงานว่าเหตุการณ์ยิงกราดครั้งล่าสุดในรัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2565 เหตุสลดที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ อีกครั้ง และยังเป็นภาพสะท้อนกรณีเหตุใช้อาวุธปืนยิงฝูงชนที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในรัฐนี้ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี

ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุยิงกราดในสหรัฐฯ เลือกพุ่งเป้าไปยังกลุ่มคนที่เข้าไปทำกิจกรรมในศาสนาสถานในวันอาทิตย์ นักช้อปที่วอลมาร์ท นักเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย และผู้ใช้รถบนถนนหลวง

แต่ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2564 เหยื่อนั้นเป็นเด็ก 19 คนและครู 2 คนจากโรงเรียนประถมในเมืองยูวัลดี ซึ่งเป็นเมืองขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของนครซานอันโตนิโอ โดยเหตุการณ์นี้ได้กลายมาเป็นกรณีการยิงกราดในรั้วโรงเรียนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบเกือบทศวรรษ

และเมื่อย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนเหยื่อผู้เสียชีวิตจากกรณียิงกราดในรัฐเท็กซัสนั้นอยู่ที่กว่า 85 คนแล้ว

ขณะที่ เหตุสลดครั้งล่าสุดนี้ทำให้คนทั่วสหรัฐฯ กลับมาถกเถียงกันอีกครั้งเกี่ยวกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการใช้ปืน หลายคนเชื่อว่า รัฐเท็กซัสและรัฐบาลของรัฐที่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่น่าจะไม่ทำการใด ๆ เพื่อควบคุมการเข้าถึงอาวุธปืนเลย

เมื่อปีที่แล้ว รัฐเท็กซัสเพิ่งผ่านกฎหมายที่เอื้อให้การซื้อปืนทำได้ง่ายดายยิ่งขึ้น แม้ว่า เมื่อปี 2562 จะเพิ่งมีเหตุการณ์มือปืนรายหนึ่งทำการยิงกราดที่ร้านวอลมาร์ท ในเมืองเอล ปาโซ ซึ่งเป็นกรณีการมุ่งทำร้ายที่เหยียดเชื้อชาติ เพราะเหยื่อนั้นเป็นผู้มีพื้นเพมาจากครอบครัวที่พูดภาษาสเปน

สถานการณ์ที่ดำเนินมาเช่นนี้ในเท็กซัสสะท้อนภาพความเป็นจริงที่ว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันจะยังคงเดินหน้าสกัดกั้นสภาคองเกรสไม่ให้ออกกฎหมายเข้มงวดในการควบคุมปืนต่อไป ขณะที่ สมาชิกพรรคเดโมแครตและผู้ที่สนับสนุนการมีกฎหมายดังกล่าวก็จะได้แต่อยู่ในสภาพขุ่นเคืองไปตลอด

หลังมีรายงานเหตุยิงกราดในเท็กซัส ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกแถลงการณ์จากทำเนียบขาวด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยว ที่มีการตั้งคำถามว่า “เมื่อไหร่เราถึงจะลุกขึ้นยืนสู้กับพวกกลุ่มล็อบบี้อาวุธปืนกัน?”

เหตุการณ์ยิงกราดในเท็กซัสนั้นเกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังสมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ (National Rifle Association – NRA) ประกาศแผนจัดการประชุมประจำปีในนครฮิวสตัน ซึ่งมีกำหนดเชิญ เกร็ก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐนี้และผู้นำพรรครีพับลิกันคนอื่น ๆ ขึ้นเวทีงานด้วย

ในเวลานี้ แม้ว่า พรรคเดโมแครตจะมีเสียงข้างมากในสภาคองเกรสอยู่บ้าง ความหวังที่จะผลักดันกฎหมายควบคุมความรุนแรงจากการใช้ปืนนั้นยังริบหรี่อยู่ดี เนื่องจาก เสียงคัดค้านอย่างแข็งขันจากฝ่ายรีพับลิกัน

เมื่อปีที่แล้ว สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมาย 2 ฉบับที่มีเนื้อหาเพิ่มเงื่อนไขให้มีการตรวจสอบประวัติของผู้ซื้ออาวุธปืนออกมา แต่ทั้งสองฉบับกลับไม่สามารถฝ่าด่านวุฒิสภาที่มีสมาชิกทั้งสองพรรคใหญ่ครองเสียงพรรคละ 50 เสียงอยู่ เพราะเดโมแครตต้องการเสียงสนับสนุนจากรีพับลิกันอย่างน้อยอีก 10 เสียงตามเงื่อนไขของกระบวนการ filibuster หรือ การอภิปรายถ่วงเวลาเพื่อขวางการลงมติในร่างกฎหมาย ซึ่งสมาชิกพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นเสียงส่วนน้อยมักเลือกใช้ได้

ในส่วนของรัฐเท็กซัสนั้น การจะเปลี่ยนกฎหมายเรื่องการเข้าถึงปืนนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสมาชิกสภาคองเกรสเปิดสมัยประชุมในปี 2566 แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ว่าเกิดขึ้นจริง เพราะที่ผ่านมา เสียงเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายปืนนั้นไม่เคยนำไปสู่การลงมือทำเลย

สำหรับเหตุการณ์ครั้งล่าสุดที่เมืองยูวัลดีนี้ ผู้ว่าฯ แอบบอตต์ ซึ่งจะต้องลงสนามเลือกตั้งเพื่อให้ได้อยู่ในตำแหน่งอีกสมัยในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นว่า เท็กซัสจะทำการใด ๆ เกี่ยวกับนโยบายที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ขณะที่ รัฐนี้มีแต่ผ่อนคลายกฎหมายเกี่ยวกับปืนมาตั้งแต่ แอบบอตต์ ก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐเมื่อปี 2558

และเมื่อ 1 ปีก่อนเหตุยิงกราดที่โรงเรียนประถมในเมืองยูวัลดี รัฐสภาของรัฐเท็กซัสที่พรรครีพับลิกันคุมเสียงข้างมากอยู่เพิ่งทำการลงมติถอดเงื่อนไขบังคับให้ผู้ที่ลงทะเบียนเป็นเจ้าของปืนพกจำนวนเกือบ 1.6 ล้านคนในรัฐนี้ต้องแสดงใบอนุญาตครอบครองอาวุธ ทำการตรวจสอบประวัติ และเข้ารับการอบรม โดยผู้ว่าฯ แอบบอตต์ เป็นผู้ลงนามรับรองการแก้ไขกฎหมายนี้ ซึ่งถูกมองว่า เป็นการปิดฉากโอกาสของเท็กซัสในการปรับปรุงกฎหมายปืน หลังเหตุยิงกราดที่ร้านวอลมาร์ทไปโดยปริยาย

ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ว่าฯ แอบบอตต์ ทำไปนั้นดูขัดแย้งกับสัญญาณของเขาว่าจะสนับสนุนกฎหมาย “ธงแดง” ที่มีจุดประสงค์จำกัดการเข้าถึงอาวุธปืนโดยผู้ที่มีโอกาสทำอันตรายแก่ตนเองหรือผู้อื่น หลังเกิดเหตุการณ์ยิงกราดที่โรงเรียน Santa Fe High School ใกล้ ๆ นครฮิวสตัน เมื่อปี 2561 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน

เคน แพ็กซ์ตัน อัยการสูงสุดของรัฐเท็กซัส ซึ่งเพิ่งได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันให้รับตำแหน่งต่อในสมัยที่ 3 เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2565 บอกกับสถานีข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ หลังทราบเกี่ยวกับเหตุสลดที่โรงเรียนประถมในเมืองยูวัลดี ว่า วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับเรื่องนี้ก็คือ การให้ครูเข้าอบรมและการทำโรงเรียน “แข็งแกร่งขึ้น”

ท้ายสุด โจ มูดี้ ส.ส.รัฐเท็กซัส สังกัดพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เมื่อหลังเกิดกรณียิงกราดที่ร้านวอลมาร์ทนั้น ตนหวังว่า จะเกิดการปฏิรูปกฎหมายปืนได้ในที่สุด แต่ในวันนี้ เขากล่าวว่า “คำตอบเดียวที่จะได้เมื่อหันหน้าไปหาแคปิตอล (รัฐสภาสหรัฐฯ) ก็คือ ‘การมีปืนมากขึ้น และการลดข้อจำกัดต่าง ๆ ลง’ … เพียงแค่นั้น”

 

ที่มา: VOA [1] [2] [3]



ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: