ดำเนินคดีหมู่บ้านจัดสรรให้คนจีนพักอาศัยโดยคนไทยเป็นนอมินีที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

กองบรรณาธิการ TCIJ 6 ก.ค. 2566 | อ่านแล้ว 46238 ครั้ง

ดำเนินคดีหมู่บ้านจัดสรรให้คนจีนพักอาศัยโดยคนไทยเป็นนอมินีที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่

สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการดำเนินคดีกลุ่มคนจีนและไทย ประกอบธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรให้คนจีนพักอาศัย โดยให้คนไทยเป็นนอมินี ดำเนินการจัดตั้งบริษัทเพื่อถือหุ้นแทน

6 ก.ค. 25666 เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ​ รายงานว่าจากกรณีสำนักข่าวและสื่อสังคมออนไลน์นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มทุนจีนกว้านซื้อที่ดินสร้างหมู่บ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการพักอาศัยของกลุ่มคนจีน ซึ่งเดิม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เข้าบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ และ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่เข้าตรวจสอบและดำเนินคดีกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรชื่อ “โครงการหมู่บ้านฟ้าหลวง” ตั้งอยู่ที่ ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการดำเนินกิจการของ บริษัท ฟ้าหลวงการเกษตร จำกัด ในลักษณะให้คนไทยเป็นนอมินี ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (สัญชาติจีน) โดยในทางคดีพนักงานสอบสวน สภ.สันกำแพง และ พนักงานอัยการจังหวัดเชียงใหม่ มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้วนั้น จำนวน 8 ราย คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมา มีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งให้ บริษัท ฟ้าหลวงการเกษตร จำกัด จัดการจำหน่ายที่ดิน ตามประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 149 แปลง เนื้อที่ 44 ไร่ 84 ตารางวา ภายใน 180 วัน นับแต่วันรับทราบคำสั่ง นั้น

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการต่อเนื่องให้ตรวจสอบโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซึ่งมีลักษณะและพฤติการณ์คล้ายกัน โดยฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันตรวจสอบหมู่บ้านในโครงการ “รักเชียงใหม่” ตั้งอยู่ ต.บ้านแหวน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ แบ่งออกเป็นที่ดินจำนวน 43 แปลง เนื้อที่รวม 22 ไร่ 1 งาน 1.7 ตารางว่า โดยพบว่า โครงการหมู่บ้านดังกล่าวมีบริษัทเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เชียงใหม่ เจี่ยหยวนไถ่ จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด และ บริษัท อั่ย เชียงใหม่ ไทย จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด ซึ่งมีพฤติการณ์จัดตั้งบริษัทมาเพื่อกระทำนิติกรรมอำพรางในการถือครองที่ดิน โดยมีการจดทะเบียนสิทธิเหนือพื้นดินทั้งแบบระยะยาวและแบบตลอดชีพให้กับคนจีนเพื่อสามารถอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าวได้เสมือนเป็นเจ้าของที่ดินและบริหารกิจการโดยกลุ่มคนจีนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเอง ส่วนบริษัทเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ทั้ง 2 บริษัท มีการใช้ชื่อคนไทยเป็นกรรมการบริษัท แต่ไม่มีอำนาจในการบริหารกิจการและการเงินของบริษัท โดยมีการจดทะเบียนบริษัท ชื่อ บริษัท แกรนด์ โกลเด้น โกล จำกัด เพื่อใช้ในการถือหุ้นแทนคนจีนที่บริหาร บริษัท เชียงใหม่ เจี่ยหยวนไถ่ จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด และ บริษัท อั่ย เชียงใหม่ ไทย จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด อยู่

ซึ่งฝ่ายสืบสวน บก.ตม.5 และ ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รวบรวมพยานหลักฐานและเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หางดง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จำนวน 13 ราย แบ่งเป็น

-นิติบุคคล จำนวน 3 บริษัท ดังนี้

1. บริษัท แกรนด์ โกลเด้น โกล จำกัด

2. บริษัท เชียงใหม่ เจี่ยหยวนไถ่ จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด

3. บริษัท อั่ย เชียงใหม่ ไทย จงโย่วเซียน กงซือ จำกัด

บริษัทลำดับ 1 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และให้ความช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน ให้คนต่างด้าว ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ฯ บริษัทลำดับ 2, 3 กล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าว ประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต

-กลุ่มบุคคลต่างด้าว สัญชาติจีน จำนวน 4 ราย ดังนี้

1. Mr. WANG BEICHUAN (นายหวาง ใบจาน) – จับกุมแล้ว

2. Mr.JIANHUA ZHANG (นายเจียนหัว จาง) – จับกุมแล้ว

3. Mrs.CHEN FURONG (นางเชิน ฟู่หลง) – จับกุมแล้ว

4. Mr.LIU JUNBING (นายหลิว จิ้นปิง) – หลบหนี/ออกหมายจับ

ลำดับ 1 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยให้ความช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน หรือ ร่วมประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์แก่คนต่างด้าวฯ

ลำดับ 2-4 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น

-กลุ่มคนไทย จำนวน 6 ราย ดังนี้

1. นายอนุพงษ์ฯ กรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท แกรนด์ โกลเด้นฯ

2. นายฤทธิชัยฯ ผู้ถือหุ้นบริษัท แกรนด์ โกลเด้นฯ (แจ้งข้อกล่าวหา)

3. น.ส.ธีรจราฯ ผู้ถือหุ้นบริษัท แกรนด์ โกลเด้นฯ (แจ้งข้อกล่าวหา)

4. น.ส.ดุษฎีฯ กรรมการและถือหุ้น (แจ้งข้อกล่าวหา) (แจ้งข้อกล่าวหา)

5. น.ส.วันทีย์ฯ ผู้ถือหุ้น (แจ้งข้อกล่าวหา)

6.น.ส.สิริวรรณฯ กรรมการ (แจ้งข้อกล่าวหา)

ลำดับ 1-3 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น และให้ความช่วยเหลือ หรือ สนับสนุน ให้คนต่างด้าว ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ฯ

ลำดับ 4-6 กล่าวหาว่า เป็นกรรมการ หุ้นส่วน หรือ ผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล ซึ่งรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้น หรือ มิได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น

การกระทำของกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติออกหมายจับ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นชาวต่างชาติไปแล้ว จำนวน 4 ราย ได้มีการแจ้งข้อหาผู้ต้องหาคนไทยไปแล้วจำนวน 6 ราย ในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นนิติบุคคล พนักงานสอบสวน สภ.หางดง ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพื่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ในการดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง พบว่าทั้งโครงการหมู่บ้านฟ้าหลวง และ โครงการหมู่บ้านรักเชียงใหม่ มีพฤติการณ์ให้คนไทยเป็นนอมินีในการประกอบกิจการแทนคนต่างด้าว โดยจะมีการตรวจสอบทรัพย์สิน เส้นทางการเงินและจัดการจำหน่ายที่ดินเพื่อให้กลับมาเป็นของคนไทย และหากพบว่าทรัพย์สินที่ได้มานั้น เป็นการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งจะมีความผิดฐานฟอกเงิน จะได้ดำเนินการยึดทรัพย์ดังกล่าวต่อไป

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: