ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แถลงปฏิบัติการ 'ยุบวงจร หลอกลงทุนกลุ่มอมตะ Phase 2' เจอเพจปลอมเพียบ เสียหายกว่า 66 ล้านบาท
เพจตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท. รายงานเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2566 ว่ากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 ควบคุมสั่งการให้สืบสวนคดีในระบบแจ้งความออนไลน์ที่มีความเชื่อมโยงกันเป็นจำนวนมาก หรือในลักษณะเป็นเครื่อข่ายองค์กรอาชญากรรม ซึ่งได้ทำการตรวจพบกรณีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มเทรดหุ้นของกลุ่มอมตะ ซึ่งได้ดำเนินการแถลงข่าวใน Phase 1 ไปแล้วเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 66 และได้มีการติดตามสืบสวนจับกุมเรื่อยมา จนถึงปัจจุบัน
สืบเนื่องจากมีมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในกลุ่มเทรดหุ้นของ กลุ่มอมตะ โดยมิจฉาชีพจะแอดไลน์ เข้ามาอ้างตัวเป็นโบรคเกอร์ โดยใช้ชื่อไลน์แตกต่างกันไป อาทิเช่น amata4978 , amataservice7891 , service worker , Amata2788 , Inmot_88 เป็นต้น เข้ามาพูดคุยเรื่องการลงทุนระยะสั้น จากนั้นได้แจ้งผลกำไร แล้วแจ้งให้ผู้เสียหาย โอนเงินเพื่อจ่ายภาษีจากผลกำไร โดยให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านบัญชีม้า ซึ่งมิจจาชีพจะใช้รูปโฆษณาในเพจเฟซบุ๊คเพื่อชักชวนให้ลงทุนกับกองทุนอมตะ โดยมีภาพคุณวิกรม กรมดิษฐ์ (กรรมการผู้จัดการและกรรมการบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA) ทำให้ดูน่าเชื่อถือและหลงเชื่อว่ามีผลตอบแทนที่ดี จึงติดต่อไปยังแอดมินเฟซบุ๊ค มิจฉาชีพ และมีการแอดไลน์พูดคุย เชิญชวนให้เปิดพอร์ตแบบระยะสั้น ให้ทำการโอนเงินครั้งแรกจำนวนน้อยๆก่อน และให้ทำการเทรดจำนวนหลายครั้ง ซึ่งในแต่ละครั้งจะให้โอนเงินเติมเข้าพอร์ตการลงทุนจากหลักพันบาทในครั้งแรก และค่อยๆให้โอนเพิ่มเติมถึงหลักแสนบาท โดยจะแสดงผลกำไรและแจ้งกลับมาให้ผู้เสียหายดีใจ ตื่นเต้น หลงเชื่อ เมื่อผู้เสียหายขอปิดบัญชี เพื่อเบิกเงินออกมา มิจฉาชีพจะแจ้งว่าต้องเสียค่าภาษี ค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นเงินหลักแสนอีก เมื่อผู้เสียหายไม่โอนเงิน ทางมิจฉาชีพมีการต่อว่า และตัดการติดต่อไป ซึ่งมิจฉาชีพมีการหลอกลวงผู้เสียหายจำนวนหลายราย ได้ทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ใน Phase 2 นี้ มีเพจที่ถูกปลอมเพิ่มขึ้นอีกกว่า 73 เพจปลอม มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความเพิ่มจากเดิมอีกจำนวนกว่า 203 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 66 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน พบว่าในขณะนี้มีผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิดจำนวนหลายราย จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วหลายราย โดยในห้วงที่ผ่านมาออกหมายจับเพิ่มเติมไปแล้วจำนวน 19 หมาย สามารถจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้กว่า 10 ราย ซึ่งมีความเชื่อมโยงในการกระทำความผิดในรูปแบบเดียวกันหลายคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวและเร่งขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้กระทำความผิดต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ