คพ. ผนึกกำลังร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาขยะเกาะเต่าทั้งระบบ

กองบรรณาธิการ TCIJ 13 พ.ค. 2566 | อ่านแล้ว 2174 ครั้ง

คพ. ผนึกกำลังร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาขยะเกาะเต่าทั้งระบบ

เกาะเต่ามีปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในช่วงท่องเที่ยวมากถึง 15 - 20 ตันต่อวัน แต่สถานที่กำจัดขยะ มีพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณขยะในอนาคต คพ. ผนึกกำลังร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาขยะเกาะเต่าทั้งระบบ

เมื่อช่วงต้นเดือน พ.ค. 2566 เพจกรมควบคุมมลพิษ รายงานว่านายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้ลงพื้นที่พบปะสอบถามข้อมูลจากร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ บนเกาะ และประชุมหารือร่วมกับมูลนิธิการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน (มูลนิธิ 3R ) มูลนิธิโคคา-โคล่า ร้านรับซื้อของเก่า นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวเกาะเต่า ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าบนเกาะเต่าและนายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการจัดการขยะมูลฝอยบนเกาะเต่าอย่างยั่งยืนทั้งระบบ

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เกาะเต่ามีปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในช่วงท่องเที่ยวมากถึง 15 - 20 ตันต่อวัน แต่สถานที่กำจัดขยะ มีพื้นที่ 4 ไร่ ซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับปริมาณขยะในอนาคต การขับเคลื่อนการจัดการขยะอย่างยั่งยืนทั้งระบบต้องดำเนินการตั้งแต่ความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ที่นำขึ้นเกาะที่จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บรรจุภัณฑ์ที่จัดการง่าย สามารถเรียกคืนกลับเข้าสู่ระบบเพื่อนำกลับไปใช้ใหม่ ไม่ถูกทิ้งตกค้างอยู่บนเกาะ การสนับสนุนให้เกิดการเก็บและคัดแยก รวมถึงการขนส่งออกจากเกาะโดยใช้หลักการการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต การวางแผนจัดระบบการคัดแยกขยะมูลฝอยตั้งแต่แหล่งกำเนิด การเก็บขนขยะแบบแยกประเภท รวมไปถึงการกำจัดขยะเก่าที่ตกค้างบนเกาะ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอย ลดปริมาณขยะที่กำจัดได้ยาก ลดปริมาณขยะมูลฝอยที่จะนำไปกำจัด เพื่อให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่เกาะที่มีพื้นที่จำกัด
ผมจึงขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์

ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว ร้านสะดวกซื้อและผู้จำหน่ายสินค้าในพื้นที่เกาะเต่า ให้จำหน่ายหรือใช้บรรจุภัณฑ์

ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ง่ายต่อการนำกลับมารีไซเคิล ลดปริมาณขยะที่จะต้องนำไปกำจัด หรือใช้บรรจุภัณฑ์ที่สลายตัวได้ทางชีวภาพหรือ Compostable Plastic เพื่อลดปริมาณไมโครพลาสติกลงสู่ทะเล ให้เกาะเต่าเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวระดับโลกที่สามารถรักษาสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตของประชาชน และระบบนิเวศเป็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนต่อไป นายปิ่นสักก์ กล่าว

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: