กฟผ. เผยหน้าร้อนไทยปีนี้ร้อนจัด ส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ของระบบ 3 การไฟฟ้าแล้วถึง 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 เวลา 19.56 น. ที่ระดับ 33,384.7 เมกะวัตต์ คาดหากร้อนนี้ไม่มีฝนตกลงมา การใช้ไฟฟ้าจะทะลุ 34,000 เมกกะวัตต์

สำนักข่าวไทย รายงานเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2566 ว่านายกุลิศ สมบัติศิรี ปลัดกระทรวงพลังงานและประธานกรรมการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่าภาพรวมการใช้ไฟฟ้าในฤดูร้อนปีนี้มีแนวโน้มสูงขึ้น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยเฉพาะเดือนนี้(เมษายน) อากาศร้อนที่สุดส่งผลให้เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak) ของระบบ 3 การไฟฟ้าแล้วถึง 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดเกิดเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2566 ที่ เวลา 19.56 น. ที่ระดับ 33,384.7 เมกะวัตต์ และหากหน้าร้อนนี้ยังไม่มีในตกลงมาช่วยบรรเทาความร้อน คาดว่าการใช้ไฟฟ้าจะพีคไปถึง 34,000 เมกกะวัตต์

ดังนั้น มาตรการประหยัดพลังงานจึงถือเป็นหนึ่งแนวทางสำคัญในการลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าในฤดูร้อนและลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากค่าไฟฟ้าของประเทศไทยเป็นอัตราก้าวหน้า (Progressive Rate) ยิ่งใช้ไฟฟ้ามาก ค่าไฟฟ้าต่อหน่วยจะยิ่งสูงขึ้น นอกจากนี้การประหยัดพลังงานยังสามารถช่วยประเทศลดการนำเข้าเชื้อเพลิงราคาแพงได้อีกด้วย พร้อมแนะวิธีประหยัดพลังงานในหน้าร้อนที่ง่ายที่สุด โดย “ปรับ ล้าง ตั้ง ลด” ปรับการแต่งกายใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้น งดใส่สูทผูกไทด์ /ล้างแผ่นกรองอากาศแอร์ทุก 1-2 เดือน และล้างทำความสะอาดใหญ่ทุก 6 เดือน ตั้งอุณหภูมิแอร์ที่ 26-27 องศา และเปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็น 2 มาตรการนี้ จะลดค่าไฟฟ้าลงได้ไม่ต่ำกว่า 300 บาท/เดือน/เครื่อง