RVCMC กลุ่มบริษัทของซาอุดิอาระเบีย ประกาศความสำเร็จในการประมูลคาร์บอนเครดิตกว่า 2.2 ล้านตัน ในงานประมูลคาร์บอนเครดิตแบบภาคสมัครใจที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งจัดขึ้นในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อช่วงเดือน มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา | ที่มาภาพประกอบ: Magnus Commodities
· บริษัทในซาอุดีอาระเบียและบริษัทต่างชาติ 16 แห่งเข้าร่วมการประมูล โดยอารามโค (Aramco), ซาอุดี อิเล็กทริกซิตี คอมปานี (Saudi Electricity Company: SEC) และอีโนวา (ENOWA) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือนีอุม (NEOM) ซื้อคาร์บอนเครดิตเป็นจำนวนมากที่สุด
· งานประมูลนำเสนอคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่เข้าเกณฑ์โครงการการชดเชยและการลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการบินระหว่างประเทศ (Carbon Offsetting and Reduction Scheme for International Aviation: CORSIA) และจดทะเบียนกับเวอร์รา (Verra)
· งานประมูลในวันนี้ทำลายสถิติของงานประมูลคาร์บอนเครดิตแบบภาคสมัครใจครั้งก่อนในเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งมีการขายคาร์บอนเครดิต 1.4 ล้านตัน
พีอาร์นิวส์ไวร์/ดาต้าเซ็ต รายงานเมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย. 2566 ว่าบริษัทรีจินอล โวลันทารี คาร์บอน มาร์เกต คอมปานี (Regional Voluntary Carbon Market Company: RVCMC) กลุ่มบริษัทของซาอุดิอาระเบีย ประกาศความสำเร็จในการประมูลคาร์บอนเครดิตกว่า 2.2 ล้านตัน ในงานประมูลคาร์บอนเครดิตแบบภาคสมัครใจที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมา ซึ่งจัดขึ้นในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2566
งานประมูลนำเสนอคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่เข้าเกณฑ์ CORSIA และจดทะเบียนกับ Verra ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อที่ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านทั่วโลก RVCMC มุ่งมั่นที่จะรับประกันว่าการซื้อคาร์บอนเครดิตแบบภาคสมัครใจนั้นไปไกลกว่าการลดการปล่อยมลพิษอย่างมีนัยสำคัญภายในห่วงโซ่คุณค่า
หน่วยงานระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย 16 แห่งเข้าร่วมการประมูล โดยอารามโค (Aramco), ซาอุดี อิเล็กทริกซิตี คอมปานี (SEC) และอีโนวา (ENOWA) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือนีอุม (NEOM) ซื้อคาร์บอนเครดิตเป็นจำนวนมากที่สุด ส่วนผู้ประมูลรายอื่นที่ประสบความสำเร็จในการประมูล ได้แก่
· อับดุล ลาตีฟ จามีล (Abdul Latif Jameel)
· ฟรุซ มารีน คอร์ป (Fruiz Marine Corp) (Costamare)
· กอล์ฟ ซาอุดี (GOLF SAUDI)
· ธนาคารกัลฟ์ อินเตอร์เนชันแนล แบงก์ (Gulf International Bank)
· บรรษัทการเงินการค้าระหว่างประเทศอิสลาม (ITFC)
· บริษัท โอลายัน ไฟแนนซิ่ง คอมปานี (Olayan Financing Company)
· ซาอุเดีย (SAUDIA)
· ซาอุดี อาระเบียน ไมน์นิ่ง คอมปานี (Saudi Arabian Mining Company) (MA'ADEN)
· ซาอุดี อารามโค เบส ออย คอมปานี (Saudi Aramco Base Oil Company) (Luberef)
· ซาอุดี เบสิก อินดัสตรีส์ คอร์ปอเรชั่น (Saudi Basic Industries Corporation) (SABIC)
· ธนาคารซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (Saudi National Bank)
· บริษัทซาอุดี เทเลคอมมูนิเคชัน คอมปานี (Saudi Telecommunication Company) (STC)
· บริษัท ยันบู ซีเมนต์ คอมปานี (Yanbu Cement Company)
ราคาเริ่มต้นประมูลแตะ 23.50 ริยัลซาอุดีอาระเบียต่อคาร์บอนเครดิต 1 ตัน
เครดิตทั้งหมดที่ประมูลประกอบด้วย 18 โครงการที่แสดงถึงการผสมผสานระหว่างการหลีกเลี่ยงและกำจัด CO2 รวมถึงโครงการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงเตาปรุงอาหารที่สะอาดและโครงการพลังงานหมุนเวียน โดย 3 ใน 4 ของคาร์บอนเครดิตมาจากประเทศต่าง ๆ ทั่วตะวันออกกลาง, แอฟริกาเหนือ และแอฟริกาใต้สะฮารา ซึ่งรวมถึงเคนยา, ยูกันดา, บุรุนดี, รวันดา, โมร็อกโก, อียิปต์ และแอฟริกาใต้
ความสำเร็จของการประมูลในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของซาอุดีอาระเบียในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับโครงการซาอุสีเขียว (Saudi Green Initiative) และวิสัยทัศน์ปี 2573 (Vision 2030)
นอกเหนือจากงานประมูลในวันนี้ RVCMC ได้ลงนามใน MOU 2 ฉบับ โดยลงนามฉบับหนึ่งกับบริษัทเอเวอร์เรดี้ อีสต์ แอฟริกา (Eveready East Africa Plc) และอีกฉบับกับบริษัทคาร์บอน วิสต้า ไนจีเรีย (Carbon Vista Nigeria LP) เพื่อสร้างโครงการคาร์บอนคุณภาพสูงที่สร้างผลกระทบในเคนยา, ไนจีเรีย และที่อื่น ๆ ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นที่สำคัญระหว่าง RVCMC และสถาบันหลักของแอฟริกา
คุณริฮัม เอลกิซี่ (Riham ElGizy) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ RVCMC กล่าวว่า "เราจำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมือที่มีอยู่เพื่อรับมือกับผลกระทบร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้น งานประมูลครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจในการผลักดันเงินทุนไปยังพื้นที่ที่มีความต้องการมากที่สุด เพื่อดำเนินการด้านสภาพอากาศและยกระดับความเป็นอยู่ทั่วทั้งกลุ่มประเทศซีกโลกใต้
"วันนี้เราได้เสร็จสิ้นการประมูลคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงแบบภาคสมัครใจที่ใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยขายได้กว่า 2.2 ล้านตัน สานต่อความสำเร็จจากการประมูล 1.4 ล้านตันในเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
"เป้าหมายของเราคือการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2573 ซึ่งเป็นตลาดที่สามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนหลายร้อยล้านตันต่อปี และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ทั่วโลก ความสำเร็จของเราจนถึงปัจจุบันในช่วงเวลาสั้น ๆ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นต่อความสำเร็จในระยะยาว และขีดความสามารถในการบรรลุปณิธานของเรา"
RVCMC ก่อตั้งขึ้นโดยกองทุนพับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (PIF) และกลุ่มบริษัทซาอุดี ทาดาวุล กรุ๊ป (Saudi Tadawul Group) โดยมีจุดประสงค์เพื่อแนะแนวทางและการจัดหาทรัพยากรเพื่อสนับสนุนธุรกิจและอุตสาหกรรมในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) ขณะที่พวกเขามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนผ่านทั่วโลกสู่เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภารกิจของบริษัทคือการสร้างตลาดที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จสำหรับทั้งการสร้างและการใช้คาร์บอนเครดิตแบบสมัครใจในภูมิภาค MENA และยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำทั่วโลก
เกี่ยวกับ RVCMC
RVCMC ก่อตั้งขึ้นโดยกองทุนพับลิค อินเวสต์เมนต์ ฟันด์ (PIF) และกลุ่มบริษัทซาอุดี ทาดาวุล กรุ๊ป โฮลดิ้ง คอมปานี (Saudi Tadawul Group) เมื่อเดือนตุลาคม 2565 โดย PIF ถือหุ้น 80% และทาดาวุล กรุ๊ป ถือหุ้น 20% ในบริษัท ปัจจุบัน RVCMC กำลังสร้างตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจที่น่าเชื่อถืออย่างรวดเร็วและขยายตัวกว้างขวางโดยส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงและการดำเนินการเชิงบวกด้านสภาพภูมิอากาศ บริษัทกำลังสร้างระบบนิเวศที่ประกอบด้วยกองทุนการลงทุนสำหรับโครงการลดปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต และบริการให้คำปรึกษาที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ เข้าใจวิธีการลดคาร์บอน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ