ไทยขึ้นแท่นส่งออกปลากระป๋องและแปรรูปอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน ช่วง 5 เดือนแรกปี 2566 ส่งออกไปตลาด FTA โตกว่า 16%
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานเมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2566 ว่านางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า สินค้าปลากระป๋องและแปรรูป ถือเป็นสินค้าที่มีศักยภาพของไทย ซึ่งปัจจุบันไทยส่งออกเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน และอันดับ 1 ของอาเซียน โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค. 2566) ไทยส่งออกปลากระป๋องและแปรรูปไปตลาดโลก มูลค่า 1,145.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการส่งออกไปตลาดคู่ FTA มูลค่า 351.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 15.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตลาดคู่ FTA ที่ขยายตัวต่อเนื่อง อาทิ ญี่ปุ่น ขยายตัว 22.7% ชิลี ขยายตัว 96.7% เปรู ขยายตัว 183.1% จีน ขยายตัว 25.7% กัมพูชา ขยายตัว 11.9% และฟิลิปปินส์ ขยายตัว 138.1%
นางอรมน กล่าวว่า สินค้าปลากระป๋องและแปรรูปที่ส่งออกไปตลาดคู่ FTA ทุกกลุ่มขยายตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ปลาทูน่ากระป๋อง ขยายตัว 17.2% คิดเป็นสัดส่วน 51.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปตลาดคู่ FTA ปลาแปรรูป อาทิ ปลาทูน่าที่ทำให้สุกแล้ว คาร์เวียร์ ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาแมคเคอเรล ขยายตัว 18.2% สัดส่วน 32.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปตลาดคู่ FTA ปลาซาร์ดีนกระป๋อง ขยายตัว 8.4% สัดส่วน 4.6% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปตลาดคู่ FTA และปลากระป๋องอื่นๆ ขยายตัว 6.2% สัดส่วน 11.1% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดไปตลาดคู่ FTA ทั้งนี้ ในปี 2565 ไทยส่งออกปลากระป๋องและแปรรูปไปตลาดคู่ FTA มูลค่า 931.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 4.6% จากปีก่อนหน้า ตลาดส่งออกสำคัญ อาทิ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ชิลี และเกาหลีใต้
ปัจจุบันไทยมี FTA กับคู่ค้า 18 ประเทศ โดยคู่ค้า 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด? ชิลี เปรู และฮ?องกง ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าปลากระป๋องและแปรรูปจากไทยทุกรายการแล้ว เหลือเพียง 3 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ลดภาษีนำเข้าสินค้าปลากระป๋องและแปรรูปบางส่วนให้ไทย อาทิ ญี่ปุ่น เก็บภาษีนำเข้าปลาซาร์ดีน แมคเคอเรลกระป๋อง และไข่ของปลาค็อด อัตรา 5% เกาหลีใต้ เก็บภาษีนำเข้าปลาซาร์ดีนกระป๋อง อัตรา 16% ทูน่ากระป๋อง ทั้งแบบในน้ำมันและต้มสุกแล้ว อัตรา 20% ปลาไหลแปรรูป และฟิชเพสต์ อัตรา 5% และอินเดีย เก็บภาษีนำเข้าทูน่าทุกประเภท และคาร์เวียร์ อัตรา 30% นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลง RCEP เกาหลีใต้ จะทยอยลดภาษีนำเข้าทูน่าต้มสุกในกระป๋องให้ไทยจนเหลือศูนย์ในปี 2579
"ไทยมีศักยภาพการผลิตปลากระป๋องและแปรรูปเป็นยอมรับจากทั่วโลก จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวที่มีความต้องการสินค้าอาหารเพิ่มขึ้น และไทยมีความความตกลงการค้าเสรี (FTA) จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้การส่งออกสินค้าปลากระป๋องและแปรรูปของไทยขยายตัวต่อเนื่อง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรใช้ประโยชน์จาก FTA เป็นเครื่องมือสร้างแต้มต่อขยายส่งออกสินค้าไปตลาดต่างประเทศ" นางอรมนเสริม
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ