เผยที่ประชุม BOI เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยขยายขอบข่ายการสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ให้รวมถึงการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น และกลุ่มเกษตรกรในการยกระดับสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยการจัดการป่าในพื้นที่เป้าหมาย ครอบคลุมทั้งป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2566 ว่านายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งมีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยขยายขอบข่ายการสนับสนุนตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ให้รวมถึงการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่น และกลุ่มเกษตรกรในการยกระดับสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดยการจัดการป่าในพื้นที่เป้าหมาย ครอบคลุมทั้งป่าชุมชน ป่าอนุรักษ์ ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติ
ทั้งนี้ บีโอไอให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการลงทุนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดปัญหามลภาวะ ทั้งที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรม ภาคพลังงาน ภาคการขนส่ง รวมทั้งภาคการเกษตรและชุมชน โดยที่ผ่านมา ได้ออกหลายมาตรการที่ช่วยในด้านนี้ เช่น การส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานทดแทน มาตรการยกระดับอุตสาหกรรมโดยใช้เครื่องจักรประหยัดพลังงานและเทคโนโลยีที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในครั้งนี้ บีโอไอได้หารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการกำหนดมาตรการที่จะช่วยสนับสนุนและเพิ่มความสามารถขององค์กรท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรกร ในการยกระดับการจัดการสิ่งแวดล้อมในชุมชนด้วยวิธีต่างๆ เพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างยั่งยืน
โดยกิจกรรมที่สามารถขอรับสิทธิตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เช่น
- การก่อสร้างแนวกันไฟป่าเปียก
- การก่อสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น
- การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่า
- การฝึกอบรมด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า
โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมสนับสนุนการจัดการป่า และการลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ตามเกณฑ์ที่กำหนด และได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลจากรายได้ของกิจการที่ดำเนินการอยู่ เป็นเวลา 3 ปี ในสัดส่วนไม่เกิน 200% ของเงินลงทุนที่จ่ายจริงในการสนับสนุนองค์กรท้องถิ่นและกลุ่มเกษตรกร
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า ท่ามกลางกระแสการโยกย้ายฐานการผลิตและการลงทุนที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยจำเป็นต้องใช้โอกาสนี้ ในการดึงดูดและกระตุ้นให้เกิดการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายโดยเร็ว ที่ประชุมฯ จึงเห็นชอบให้ขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุน 3 มาตรการ ที่เดิมจะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค.66 ออกไปอีก 1 ปี โดยสามารถยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้ภายในวันทำการสุดท้ายของปี 2567 ได้แก่
1. มาตรการกระตุ้นการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
2. มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม (Retention and Expansion Program)
3. มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program)
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ