ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนทูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ดับฝันลิเวอร์พูลและเจ้านายใหญ่ เจอร์เกน คลอป ที่จะคว้า 4 แชมป์เมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด แผลงฤทธิ์ต่อหน้าสาวก เร้ด อาร์มี่ ได้อย่างเหลือเชื่อด้วยการโชว์ลูกฮึดพลิกสถานการณ์แซงชนะหงส์แดง ได้อย่างสุดมันส์ 4-3 ในการฟาดแข้งถ้วย เอฟเอคัพ รอบ 8 ทีมที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มี.ค. 2024 โดยมี อะหมัด ดิยัลโล่ ตัวสำรองซัดประตูชัยในช่วงทดเวลานาทีที่ 120+2 แม้เขาจะถือศีลอด ในเดือนรอมฎอน อันประเสริฐ ก็ไม่เป็นอุปสรรค

“ใช่ครับ ผมถือศีลอด มันไม่ง่ายเลย เมื่อคุณถือศีลอด แต่คุณต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ผมถือศีลอดเพื่อพระเจ้า ผมมีความสุขมากที่ได้ถือศีลอด และผมสู้เพื่อทีมเมื่ออยู่ในสนาม ขอบคุณพระเจ้าสำหรับช่วงเวลานี้”

นี่คือคำตอบของอะหมัด ดิยัลโล่เมื่อพิธีกรถามเขาว่า “ผมคิดว่าคุณเล่นได้ยอดเยี่ยมมากหลังจากที่คุณเข้ามา สำหรับคุณมันยากแค่ไหนที่ต้องถือศีลอดช่วงรอมฎอน และทำสิ่งนั้นทั้งหมดในสนาม ผมหมายถึงที่คุณวิ่งขึ้นลงด้วยความกระปรี้กระเปร่าในการแข่งขันครั้งนี้?

อะหมัด ดิยัลโล่" ดาวรุ่งวัย 21 ปีกว่านั้นย้ายมาร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 37 ล้านปอนด์ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 18 ปี และเป็นความหวังคนใหม่ของทีมแต่ที่ผ่านมา อะหมัด ดิยัลโล่ กลับไม่ค่อยได้ลงสนามให้ทีมมากนัก จนชื่อของเขาค่อย ๆ เลือนหายไปจากความทรงจำของแฟน ๆ โดยเพิ่งจะได้รับโอกาสอย่างจริงจังในช่วงไม่กี่นัดหลังนี้เอง ก่อนจะกลายเป็นฮีโร่ในเกมแดงเดือดนัดล่าสุด

ก่อนหน้านี้เขาถูกซันเดอร์แลนด์ สโมสรระดับ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ ได้ยืมตัวเขาไปใช้งานเป็นเวลา 1 ฤดูกาล ในขณะที่ช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลก่อนหน้านี้ก็โดนปล่อยตัวให้ เรนเจอร์ส ยืมใช้งาน และทำผลงานพอใช้ได้ ลงเล่น 13 นัด ทำได้ 3 ประตู

อะหมัด นั้นเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2002 ที่เมืองอาบีจาน ประเทศไอวอรี่โคสต์ ก่อนจะย้ายมาอยู่อิตาลีตั้งแต่ยังเป็นเด็กเขาและพี่ชายเริ่มหัดเล่นฟุตบอลกับ "โบกา บาร์โก" ทีมสมัครเล่นท้องถิ่น ก่อนที่ โจวานนี่ กัลลี่ อดีตผู้รักษาประตูที่เคยเฝ้าเสาให้ฟิออเรนตินา, เอซี มิลาน และนาโปลี จะชักชวนสองพี่น้องมาฝึกซ้อมกับทีม ลุคเคเซ่ สโมสรในลีกล่างของอิตาลี ซึ่งเขาเป็นโค้ชอยู่

แต่พอไปซ้อมได้แค่ 2 วัน กัลลี่ ก็พบว่าพี่น้องคู่นี้เก่งเกินกว่าจะมาเล่นให้ทีมของเขา จึงติดต่อพี่ชายให้ไปอยู่กับทีมอะคาเดมี่ของ เอ็มโปลี ส่วน อาหมัด น้องชาย ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับยูเวนตุส, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน แต่สุดท้ายได้ไปอยู่กับ อตาลันต้า ด้วยวัยเพียง 13 ปี

ด้วยฝีเท้าที่เหนือชั้นกว่าเด็กรุ่นเดียวกัน ทำให้ อพหมัด ดิยัลโล่ ได้เล่นข้ามรุ่นมาตลอด ตอนอายุ 13 ปี ได้ไปเล่นกับทีม U15 ขณะที่ตอนอายุ 16 ก็ขยับขึ้นไปเล่นชุด U19 แล้ว ส่งผลให้ จานปิเอโร่ กาสเปรินี่ กุนซืออตาลันต้าชุดใหญ่ หนีบดาวรุ่งรายนี้ไปร่วมปรีซีซั่น และส่งลงเล่นในแมตช์อุ่นเครื่องหลายหน ก่อนจะได้โอกาสลงเล่นใน เซเรีย อา นัดแรก ในเกมที่พบกับ อูดิเนเซ่ เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2019 แถมยังยิงประตูได้ในเกมนั้นด้วยวัยเพียง 17 ปี 109 วัน นั่นทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในปี 2002 ที่ทำประตูได้ในเซเรียอา และเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในการประเดิมสนามในลีกสูงสุดของอิตาลี

ไม่ใช่มีแต่อะหมัด ที่ถือศีลอดเล่นฟุตบอลในช่วงเดือนรอมฎอน แต่ปัจจุบันมีนักเตะดังมุสลิมจำนวนมาก ในพรีเมียร์ลีก และลีกดังยุโรปไม่ต่ำกว่า 50 คน (ไม่ต่ำ 10 นักฟุตบอลไทย ที่นับถือศาสนาอิสลามเช่นกัน) ถือศีลอด

แล้วจึงเกิดคำถามในใจหลายคนว่า การถือศีลอดจะกระทบต่อนักเตะหรือไม่?

ความเป็นจริงนักฟุตบอลมุสลิมจะถือศีลอดแค่กลางวัน และแต่ละทีมระดับโลกเขามีแพทย์ มีนักโภชนาการ ให้การปรึกษากับนักเตะในการปรับเปลี่ยนการรับประทานอาหารช่วงเดือนนี้ อีกทั้งทีมผู้ตัดสินฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ รวมถึงลีกต่าง ๆ ในประเทศ พร้อมใจกันอนุญาตนักเตะมุสลิม ได้มีช่วงหยุดพักเพื่อละศีลอดระหว่างแข่งขันฟุตบอล ตามที่เราเห็นที่เขาแชร์กันในโลกโซเชี่ยล

เจอร์เก้น คลอปป เจ้านายใหญ่ลิเวอร์พูล เคยบอกว่า “วอร์มอัพ เขาจะเหลือเวลาจาก 15 มาเป็น 13 นาที เพื่อให้เวลากับนักเตะมุสลิม เช่นมุฮำหมัด ซาล่าห์ ในการปฏิบัติภารกิจทางศาสนาของพวกเขาเพิ่มอีก 2 นาที เพื่อให้ทุกคนได้ไม่ขาดตกและบกพร่อง” ไม่เพียงแต่ นักเตะเท่านั้น ผู้ชมที่เป็นมุสลิมหลายสโมสร จัดสัดส่วนละศีลอดเป็นพิเศษ อีกทั้งเปิดห้องปฏิบัติศาสนกิจ หรือถึงขั้นเปิดสนามละหมาดที่สนามแข่งขันเช่นสโมสรแอสตัน วิลล่า (AVFC) เปิดสนามวิลล่าพาร์ก (Villa Park Stadium) เลี้ยงละศีลอด โดยสโมสรฟุตบอลแอสตัน วิลล่า และมูลนิธิแอสตัน วิลล่า กล่าวว่าสโมสรมีความยินดีและภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพละศีลอด และเปิดสนามวิลล่า พาร์ก ซึ่งบ้านอันโด่งดังของเราเป็นสถานที่จัดงาน Open Iftar (ละศีลอด) โดยเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันของสโมสร

ในระหว่างวันมุสลิมจะะละเว้นการกิน การดื่มซึ่งในทางการแพทย์แล้วมันจะทำให้ร่างกายขาดพลังงานจากสารอาหารที่จะได้รับและต้องสูญเสียน้ำจากการขับถ่ายออกจากร่างกายจะทำให้รู้สึกกระหายน้ำและเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลงก็จะทำให้รู้สึกหิว ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากการอดไปแล้วประมาณ 6-12 ชั่วโมง ซึ่งเรียกว่าระยะหิวโหยระดับน้ำตาลและน้ำที่ลดลงจะกระตุ้นไปที่ศูนย์ควบคุมความหิว

สำหรับคนที่มีร่างกายปกติ มีเจตนา (นียะห์) และมีความเชื่อมั่นต่อบทบัญญัติของอัลลอฮฺ (ศุบหฯ) อย่างแน่วแน่ จะไม่ทำให้ร่างกายถึงขั้นมีอาการหน้ามืดหรือหมดสติไปเพราะระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะช่วยประสานงานกันโดยอัตโนมัติเพื่อที่จะรักษาสมดุลให้เกิดขึ้น

โดยในระยะแรกร่างกายจะเริ่มมีการสลายพลังงาน ที่เก็บสะสมไว้ในตับ กล้ามเนื้อ และไขมันมาใช้เป็นพลังงานเพื่อรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกายอย่างเหมาะสม ทำให้ร่างกายสามารถดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ดร.วินัย ดะห์ลัน กล่าวว่า มีรายงานการศึกษาทางการแพทย์ของ Mansell และ Macdonald ตีพิมพ์ในวารสาร British Medical Journal เมื่อปี 1988 แสดงให้เห็นว่าหญิงที่มีน้ำหนักปกตินั้น หากให้กินอาหารน้อยมาก เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่าร่างกายของหญิงเหล่านั้นจะปรับตัวได้ดีไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย นักวิทยาศาสตร์กลุ่มเดียวกันนี้ยังศึกษาต่อไปอีกว่าหากลองให้คนอดอาหารอย่างสิ้นเชิงยาวนานถึง 48 ชั่วโมง แล้วตรวจสอบดูว่าจะส่งผลต่อกลไกการทำงานของร่างกายอย่างไรบ้าง

ผลของการศึกษาพบว่าร่างกายของผู้อดอาหารกลับตอบสนองต่อการทำงานของฮอร์โมนอินซูลินดีขึ้นด้วยซ้ำ

คนที่อดอาหาร 48 ชั่วโมง เมื่อต้องกลับมากินอาหารอีกครั้งหนึ่งปรากฏว่าสมดุลของฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ให้ประโยชน์และช่วยทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น

มีรายงานการวิจัยอื่นๆ อีกเหมือนกันที่ยืนยันว่า การอดอาหารอย่างสิ้นเชิงจะทำให้ความดันโลหิตลดลงในขณะที่ปริมาณของเลือดที่เข้าสู่หัวใจไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งหมายความว่าร่างกายปรับตัวโดยลดการทำงานของร่างกายลงในขณะที่ประสิทธิภาพของร่างกายยังคงที่อยู่ร่างกายของมนุษย์จึงอัศจรรย์กว่าที่เราเคยเข้าใจแยะ

ภายหลังผ่านการอดอาหารมาแล้วระบบการย่อยอาหารจะกลับเข้าสู่สภาวะเดิมโดยไม่แสดงผลร้ายหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ก่อผลเสียแต่อย่าง

ที่มา: Open iftar, Aston Villa FC, The Aston Villa Foundation