ช่วง ก.ค.-ธ.ค. 66 องค์กรในไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์มากถึง 1,892 ครั้งต่อสัปดาห์

กองบรรณาธิการ TCIJ 4 ก.พ. 2567 | อ่านแล้ว 2460 ครั้ง

ช่วง ก.ค.-ธ.ค. 66 องค์กรในไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์มากถึง 1,892 ครั้งต่อสัปดาห์

ผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เผยว่าองค์กรในประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์มากถึง 1,892 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ที่ผ่านมา (ก.ค.-ธ.ค. 2566) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงอย่างน่าตกใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 1,040 ครั้ง การโจมตีเกิดขึ้นสูงสุดกับหน่วยงานภาครัฐ/ทหาร อุตสาหกรรมการผลิต และการเงิน/การธนาคาร ซึ่งมีการโจมตีมากถึง 5,789 ครั้งในช่วง ก.ค.-ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา

4 ก.พ. 2567 จากรายงานล่าสุดของ บริษัท เช็ค พอยท์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ จำกัด พบว่าหน่วยงานต่างๆ ในประเทศไทยถูกโจมตีมากถึง 1,892 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยมีหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานด้านการทหารเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ถูกโจมตีเป็นหลัก

บริษัท เช็ค พอยท์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก เปิดเผยว่า องค์กรในประเทศไทยถูกโจมตีทางไซเบอร์มากถึง 1,892 ครั้งต่อสัปดาห์ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 ที่ผ่านมา (ก.ค.-ธ.ค. 2566) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงอย่างน่าตกใจเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 1,040 ครั้ง ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มาจาก Threat Intelligence Report

ล่าสุดของบริษัท เช็ค พอยท์ ซึ่งในรายงานได้พบว่า มัลแวร์แบบคริปโตไมเนอร์ (Cryptominer) และ บอตเน็ต (Botnet) เป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นแพร่หลายมากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงต่อการโจมตีแบบฟิชชิ่ง (Phishing) การหลอกลวงรูปแบบต่างๆ และการปล้นทรัพยากร (Resource Hijacking)

นอกจากนี้ยังพบว่า การโจมตีเกิดขึ้นสูงสุดกับหน่วยงานภาครัฐ/ทหาร อุตสาหกรรมการผลิต และการเงิน/การธนาคาร ซึ่งมีการโจมตีมากถึง 5,789 ครั้งในช่วง ก.ค.-ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ดังนั้น การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงกำลังมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความถี่ของการโจมตีและลักษณะที่เปราะบางของอุตสาหกรรมเป้าหมาย

โดยการโจมตีเหล่านี้อาจมุ่งเน้นไปที่การขโมยข้อมูลสำคัญ การรบกวนการทำงานของโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ (CII) การใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ของ IoT รวมถึงการหลอกดูดเงินเป็นจำนวนมหาศาล และอื่นๆ อีกมากมาย

นายชาญวิทย์ อิทธิวัฒนะ ผู้จัดการสาขาประจำประเทศไทย บริษัท เช็ค พอยท์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีส์ กล่าวว่า องค์กรต่าง ๆ ในประเทศไทย กำลังเผชิญกับการต่อสู้ที่ยากลำบากอย่างมากในขณะนี้ โดยการโจมตีด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความซับซ้อนเพิ่มมากขี้น อีกทั้งปริมาณการโจมตีกำลังทวีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี ดังนั้นองค์กรต่าง ๆ จะต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น และเพื่อป้องกันการโจมตีที่กำลังจะเกิดขี้น องค์กรต่างๆ จะต้องมีแพลตฟอร์มแบบบูรณาการที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างครอบคลุมเพื่อยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในประเทศไทย

ทั้งนี้ ภัยคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์ไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะกับประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปทั่วโลกอีกด้วย จากรายงานการโจมตีทางไซเบอร์ล่าสุดของบริษัท เช็คพอยท์ พบว่า 1 ใน 10 องค์กรทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการโจมตีของแรนซัมแวร์ในปี 2566 โดยเพิ่มขึ้น 33% จากปี 2565 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุด และเช่นเดียวกับรูปแบบการบริโภคดิจิทัล การโจมตีทางไซเบอร์ก็ได้พัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยองค์กรต่างๆ ต่างก็พยายามหาทางต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงในสนามรบดิจิทัลดังกล่าว

นอกจากนี้ การโจมตีที่เกิดขึ้นได้มีการขยายตัวโดยอาศัยช่องโหว่ Zero-day, ความไม่แน่นอนของภูมิศาสตร์การเมืองในปัจจุบัน และการนำเทคโนโลยี AI มาเสริมเขี้ยวเล็บให้กับการโจมดีทางไซเบอร์อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากอย่างยิ่งที่องค์กรต่างๆ จะสามารถรับมือกับกลยุทธ์ใหม่ๆ ที่ผู้โจมตีทางไซเบอร์กำลังเดินหน้าพัฒนาและนำออกมาใช้อย่างต่อเนื่อง

เพื่อต่อสู้และรับมือกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลง บรรดาองค์กรธุรกิจจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มที่สามารถป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ล่าสุดที่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ทันสมัยดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: