ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุ ฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่ าน
ตามที่วันที่ (4 มกราคม 2567) นายฉัตรชัย บางชวด หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุ ขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะฯ ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หารือการขับเคลื่อนงานด้านการพู ดคุยเพื่อสันติสุข ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็ นกับ คณะสถานวิจัยความขัดแย้ งและความหลากหลายทางวั ฒนธรรมภาคใต้ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรุณีวรรณ บัวเนี่ยว รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพันธกิ จสังคม วิทยาเขตปัตตานี คณะทำงาน สถานวิจัยความขัดแย้ งและความหลากหลายทางวั ฒนธรรมภาคใต้ ตัวแทนภาคประชาสังคมในพื้นที่นั้ น
ทั้งนี้ นายฉัตรชัย บางชวด หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุ ขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้ทางคณะพูดคุ ยเพื่อสันติสุขจังหวั ดชายแดนภาคใต้ ขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่ องและนำบทเรียนที่ผ่านมาแก้ไขปั ญหาไม่ให้เกิดซ้ำในอนาคต ซึ่งการพูดคุยเพื่อสันติสุขมี ความจริงจัง จริงใจ ตั้งใจให้เกิดความสำเร็จให้เกิ ดรูปธรรม ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สานต่อสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ต่ อเนื่องที่ทุกฝ่ายได้ทำมาโดยมี ระบบ มีระเบียบ มีการสานต่อแผนที่มีการยอมรั บและให้ความสำคัญทั้งรั ฐไทยและผู้เห็นต่าง โดยข้อมูลการวิจัยในครั้งนี้ เป็นประโยชน์อาจจะมีข้อมูลใหม่ๆ เกิดขึ้น ซึ่งเป้าหมายและความคาดหวังคื อคืนความเป็นปกติในพื้นที่ ภายในปี 2567 ซึ่งต้องเป็นความร่วมมือของทุ กภาคส่วน หลังจากนี้กระบวนการที่ต้ องทำตามแผนใน ปี 2567-2568 ต้องอาศัยทุกภาคส่วนมาช่วยกัน ภายใต้ในแผนคือ การลดความรุนแรงสร้ างบรรยากาศการพูดคุยสันติสุข และการมีส่วนร่วมของของทุกภาคส่ วน รวมถึงแสวงหาทางออกทางการเมือง ด้วยกระบวนการต้องมีความต่อเนื่ อง และนำแผนไปปฏิบัติจริง รวมถึงติดตามผลการดำเนินงานอย่ างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทางคณะฯ พร้อมที่จะรับฟังทุกภาคส่วนเป็ นแนวทางเดียวกัน เพื่อคืนความสันติสุขโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวั ดชายแดนภาคใต้ จะเดินหน้าขับเคลื่อนการพูดคุยฯ รวมทั้งประสานงาน และแสวงหาความร่วมมือจากภาคส่ วนที่เกี่ยวข้อง ภายใต้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนู ญแห่งราชอาณาจักรไทย บนพื้นฐานของความจริงใจ สมัครใจ และให้เกียรติ เพื่อให้ปัญหาความมั่นคงในพื้ นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการแก้ไขจนเกิดความสงบ และสันติสุขอย่างยั่งยืน ประชาชนในพื้นที่มีความปลอดภั ยทั้งในชีวิต และทรัพย์สิน อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในสั งคมพหุวัฒนธรรม
สำหรับผู้เขียนขอเสนอ 6 ประเด็นควรอยู่บนโต๊ะพูดคุยสั นติภาพส่วน “การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้ นที่”เสนอองค์กรกลางที่น่าเชื่ อถือจัด
สำหรับข้อเสนอ 6 ประเด็น ประกอบด้วย
- ลดความรุนแรง เสนอพื้นที่ปลอดภัยสาธารณะสานต่ อรอมฎอนสันติ (สารัตถะที่1) (เร่งปกป้องพลเรือนจากความรุ นแรงและการละเมิดสิทธิ์)พร้อม ตั้งหน่วยงานกลางที่ได้รั บความไว้วางใจ เพื่อเป็นกลไกพิสูจน์ ข้อเท็จจริงเหตุรุนแรง
-การแก้ปัญหาปากท้องและยาเสพติด (ปรึกษาสาธารณะ)
-การศึกษาที่มีคุณภาพสอดคล้องกั บพื้นที่(ปรึกษาสาธารณะ)
-การปกครองที่สอดคล้องกับพื้นที่ (แสวงหาทางออกทางการเมือง)
-พัฒนาพื้นที่บนฐานศักยภาพชุมชน (ปรึกษาสาธารณะ)
-เปิดพื้นที่ปลอดภัยทางการเมือง (เปิดพื้นที่ให้คนได้ถกเถียงเรื่ องอ่อนไหวทางการเมืองโดยไม่ถูก คุกคามจากทุกฝ่าย)( แสวงหาทางออกทางการเมือง)
สำหรับ 6 ประเด็น สามารถลงรายละเอียดใน 3 ประเด็นสารัตถะ ที่รัฐกับขบวนการเห็นต่างได้ ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ประกอบด้วย 1.ลดความรุนแรง 2.การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้ นที่ และ 3.แสวงหาทางออกทางการเมือง"
ในขณะที่ 6 ประเด็นนี้ ก็อยู่ในข้อเสนอแนะที่ผ่ านจากงานวิชาการที่เรียกว่า Peace Survey (อ่านย้อนหลังได้ใน https:// peaceresourcecollaborative. org/wp-content/uploads/2019/ 11/peace_survey_ recommendation_2019_th.pdf)
ส่วน “การปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้ นที่” ซึ่งศัพท์ทางการใช้คำว่า การปรึกษาหารือสาธารณะ (Public Consultation) เสนอองค์กรกลางที่น่าเชื่อถือจั ด อาจจะเป็นสถาบันทางวิชาการร่ วมกับภาคีเครือข่ายภาคประชาสั งคม คล้ายๆ องค์กรที่จัด Peace Survey
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ