ทำไมการอ่านหนังสือกับลูกจึงเป็นกิจกรรมที่สำคัญ

ปิญณ์ชาน์ เหล็กเพชร 6 ส.ค. 2567 | อ่านแล้ว 10104 ครั้ง

บทความจาก Child Mind Institute ชี้ว่าการอ่านหนังสือให้ลูกฟังนั้นดีทั้งต่อพัฒนาการด้านภาษา อารมณ์ และความสัมพันธ์ในครอบครัว

การอ่านหนังสือให้ลูกฟังนั้นดีทั้งต่อพัฒนาการด้านภาษา อารมณ์ และความสัมพันธ์ในครอบครัว จุดเด่นคือ

  1. ช่วยพัฒนาทักษะทางภาษา

การอ่านให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเล็กช่วยวางรากฐานที่ดีสำหรับการใช้ภาษาและการอ่านออกเขียนได้ เพราะหนังสือช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์ใหม่ ๆ ที่อาจไม่ได้ยินในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพูนความรู้รอบตัว ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากเมื่อเด็กเริ่มเข้าโรงเรียน

  1. ส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจ

การอ่านเรื่องราวของตัวละครต่าง ๆ ช่วยให้เด็กเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น รวมถึงเรียนรู้วัฒนธรรมและมุมมองที่หลากหลาย หนังสือยังช่วยสอนวิธีจัดการกับอารมณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม เช่น เมื่อตัวละครในเรื่องรู้สึกโกรธหรือเศร้า เด็ก ๆ จะเรียนรู้ว่านี่เป็นความรู้สึกปกติและสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของตัวเองได้

  1. เสริมสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว

การอ่านหนังสือด้วยกันเป็นโอกาสดีที่พ่อแม่และลูกจะได้ใช้เวลาร่วมกันโดยไม่มีสิ่งรบกวน แม้เพียงไม่กี่นาทีต่อวัน ก็ช่วยให้ทุกคนได้ผ่อนคลายและเชื่อมความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนาน

เคล็ดลับการอ่านให้ลูกฟัง:

- เลือกหนังสือที่เหมาะกับวัยและความสนใจของลูก

- อ่านได้ทุกภาษาที่คุณถนัด ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย อังกฤษ หรือภาษาอื่น ๆ

- ใช้ทั้งหนังสือเล่มและ e-book ตามความสะดวก

- ไม่จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์เคร่งครัด ทำให้เป็นช่วงเวลาที่สนุกและผ่อนคลาย

- ปรับเปลี่ยนวิธีการอ่านตามพัฒนาการของลูก เช่น เด็กเล็กอาจชอบดูรูปภาพมากกว่านั่งฟังนาน ๆ

สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้การอ่านเป็นกิจกรรมที่มีความหมายและสนุกสนาน ไม่ว่าจะอ่านเมื่อไหร่หรืออ่านอะไร การใช้เวลาร่วมกัน อ่านออกเสียง และพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวในหนังสือ จะช่วยให้ทั้งคุณและลูกได้รับประโยชน์สูงสุดจากการอ่าน และสร้างความทรงจำดี ๆ ร่วมกัน

วิธีสร้างนิสัยรักการอ่านให้ลูก:

  1. เริ่มตั้งแต่เด็ก: แม้แต่ทารกก็สามารถเริ่มสัมผัสกับหนังสือได้ ใช้หนังสือผ้าหรือหนังสือที่ทนทานสำหรับเด็กเล็ก
  2. ทำให้เป็นกิจวัตร: พยายามอ่านให้ลูกฟังทุกวัน อาจเป็นช่วงก่อนนอนหรือเวลาว่างอื่นๆ ที่สะดวก
  3. ให้ลูกมีส่วนร่วม: ให้ลูกเลือกหนังสือเอง หรือผลัดกันอ่านเมื่อลูกโตขึ้น
  4. แสดงออกว่าคุณก็รักการอ่าน: เด็ก ๆ มักเลียนแบบพฤติกรรมของพ่อแม่ ดังนั้นการที่คุณอ่านหนังสือให้ลูกเห็นก็เป็นแบบอย่างที่ดี
  5. ใช้ห้องสมุด: พาลูกไปห้องสมุดเพื่อเลือกหนังสือและร่วมกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน
  6. สร้างมุมหนังสือที่บ้าน: จัดพื้นที่อ่านหนังสือที่สบายและเข้าถึงง่ายสำหรับลูก

ประโยชน์ระยะยาวของการอ่านให้ลูกฟัง:

  1. ส่งเสริมความสำเร็จทางการศึกษา: เด็กที่มีนิสัยรักการอ่านมักมีผลการเรียนดีในหลายวิชา
  2. พัฒนาความคิดสร้างสรรค์: การอ่านช่วยกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
  3. เพิ่มสมาธิและความจำ: การฟังเรื่องราวช่วยฝึกสมาธิและความจำระยะยาว
  4. สร้างทักษะการสื่อสาร: เด็กที่อ่านมากมักมีทักษะการพูดและการเขียนที่ดี
  5. เตรียมพร้อมสู่โลกดิจิทัล: การอ่านช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ซึ่งจำเป็นในยุคดิจิทัล
  6. ลดความเครียดและวิตกกังวล: การอ่านเป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่

การปรับการอ่านตามวัย:

- ทารก-2 ขวบ: เน้นหนังสือภาพ อ่านซ้ำ ๆ และใช้น้ำเสียงที่สนุกสนาน

- 2-5 ขวบ: เริ่มอ่านนิทานที่มีเนื้อเรื่องง่าย ๆ ใช้คำถามกระตุ้นการมีส่วนร่วม

- 6-12 ขวบ: อ่านหนังสือที่ยาวขึ้น แบ่งเป็นตอน ๆ และพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อหาที่อ่าน

- วัยรุ่น: แม้จะอ่านเองได้แล้ว การอ่านร่วมกันก็ยังมีประโยชน์ อาจเลือกหนังสือที่มีเนื้อหาซับซ้อนขึ้นและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

แม้ว่าการอ่านร่วมกันจะมีความสำคัญ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นกิจวัตรที่สมบูรณ์แบบ การอ่านในเวลาเดียวกันทุกวัน - เช่น เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรก่อนนอน อาจช่วยสร้างความอบอุ่นและนิสัยรักการอ่าน แต่ทุกโอกาสที่ลูกได้ฟังและมีปฏิสัมพันธ์กับคุณล้วนมีคุณค่า

"ดร. ฟิลลิปส์อธิบายว่าพัฒนาการของเด็กไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ บางช่วงอาจก้าวกระโดด โดยเฉพาะเด็กที่กำลังพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อาจไม่อยากนั่งนิ่ง ๆ บนตักเพื่ออ่านหนังสือ ในกรณีนี้ แทนที่จะพยายามบังคับให้เด็กทำตามกฎ ซึ่งอาจทำให้เด็กรู้สึกไม่ดีกับการอ่าน ควรปรับวิธีการให้เหมาะกับความสนใจและพฤติกรรมของเด็กในขณะนั้น จะได้ผลดีกว่า"

"ตอนนี้ฉันมีลูกอายุเก้าเดือน และเธอไม่สนใจจะนั่งนิ่ง ๆ บนตักฉันขณะที่ฉันอ่านหนังสือเลย" ดร. ฟิลลิปส์เล่า "แต่ฉันจะนั่งอ่านหนังสือคนเดียว แล้วเธอก็จะเข้ามาดูด้วย ฉันชี้ที่คำบางคำ พูดออกเสียงบางคำ บางทีเธอก็หยิบหนังสือไปจากฉัน หรือบางทีก็เดินไปเล่นที่อื่น ฉันก็จะอ่านต่อไปเรื่อย ๆ ขณะที่เธอเล่นอยู่ในห้องเดียวกัน อะไรก็ตามที่คุณทำได้ ล้วนเป็นประโยชน์ทั้งนั้น"

สุดท้ายนี้ การอ่านให้ลูกฟังไม่ใช่เพียงการสร้างนิสัยรักการอ่านเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความทรงจำและความสัมพันธ์อันอบอุ่นในครอบครัว ซึ่งจะติดตัวลูกไปตลอดชีวิต การลงทุนเวลาในการอ่านหนังสือร่วมกันจึงเป็นของขวัญล้ำค่าที่พ่อแม่สามารถมอบให้ลูกได้


ที่มา:
Why Is It Important to Read to Your Child? (Hannah Sheldon-Dean, Child Mind Institute)

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: