สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ เห็นด้วยนำ 'กัญชา-กัญชง' กลับมาเป็นยาเสพติด

กองบรรณาธิการ TCIJ 11 ก.ค. 2567 | อ่านแล้ว 4647 ครั้ง

สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ เห็นด้วยนำ 'กัญชา-กัญชง' กลับมาเป็นยาเสพติด

สมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ขอบคุณ คณะกรรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้ 'กัญชา-กัญชง' กลับเป็นยาเสพติด พร้อมข้อเสนอแนะ

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2567 ดร.ขดดะรี บินเซ็น นายกสมาคมสมาพันธ์โรงเรียนเอกชนภาคใต้ ออกแถลงการณ์ขอบคุณ คณะกรรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขให้ "กัญชา-กัญชง" เป็นยาเสพติดอีกครั้งเมื่อ 5 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา

โดยสมาคมสมาพันธ์สะท้อนว่า“อันเนื่องมาจากภาวะสุญญากาศพรบ.กัญชาที่ผ่านมาร้านค้ารายย่อย หรือ แคนนาบิส ช็อปขายช่อดอกเพื่อนันทนาการอย่างเปิดเผย ไม่ถูกจับกุม อาหาร-เครืองดื่มผสมกัญชาขายอย่างไร้การควบคุม จนสังคมเริ่มตั้งคำถามว่า นี่เป็นการปลดล็อกกัญชา ตรงตามเจตนารมณ์เดิม เพื่อการแพทย์หรือไม่ในสถิติของศูนย์ศึกษาปัญหายาเสพติด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุงานวิจัย เยาวชนสูบกัญชาเพิ่ม 10 เท่า หลังปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ออกประกาศ 2 ฉบับ ห้ามสูบในที่สาธารณะและห้ามจำหน่ายช่อดอกแก่เยาวชน แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการผุดขึ้นของร้านแคนนาบิสช็อป และยังพบการนำเข้ากัญชาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างผิดกฎหมาย

เครือข่ายอาจารย์แพทย์ สถาบันการศึกษาและภาคประชาชนหลายคนเริ่มส่งเสียงเตือนภาวะสุญญากาศกัญชา ที่น่าห่วงที่สุดคือส่งผลกระทบต่อเยาวชน รวมทั้งนักเรียน และมีข้อสังเกตว่าผู้ป่วยจากการใช้กัญชาทั้งจากการสูบ การกิน สูงขึ้นสามเท่า ที่ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นเสนอให้มีคณะทำงานหลายฝ่ายมาร่วมกันคิดในการออกแบบนโยบายกฎหมายกัญชาในประเทศไทย

นอกจากนี้ปรึกษาหารือหาทางออกร่วมกันเพื่อสร้างชุมชนแห่งศาสนธรรม โดยจัดให้มีกระบวนการรับฟังผู้เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพื่อร่วมกันออกแบบนโยบายทั้งกัญชา กระท่อม และยาเสพติดทุกชนิดที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตมุสลิมหรือศาสนธรรม เช่น ประกาศเป็นเขตปลอดกัญชา ยาเสพติด และอบายมุขทุกชนิด ซึ่งสมาคมสมาพันธ์ยินดีร่วมปรึกษาหารือในการหาทางออกร่วมกันเพื่ออกแบบชุมชนแห่งศาสนธรรมสู่สันติภาพและสันติสุขอย่างยั่งยืน

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: