สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ข้อมูลว่า การเป็นคุณแม่ ถือเป็นความฝันของสาว ๆ หลายคน แต่การตั้งครรภ์นั้นต้องมีปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพร่างกาย อาหารการกิน โอกาสและจังหวะ สำหรับคู่รักที่ต้องการมีลูกแบบธรรมชาติ การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาการตกไข่ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ และสามารถตรวจหาวันไข่ตกได้ง่าย ๆ ด้วยตนเองโดยใช้ชุดทดสอบการตกไข่ ซึ่งให้ผลค่อนข้างแม่นยำ
ชุดทดสอบการตกไข่ เป็นการตรวจหาฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่ที่ชื่อว่า Luteinizing hormone หรือ LH ในปัสสาวะที่จะหลั่งออกมาเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างรวดเร็วในช่วงระยะเวลาก่อนไข่ตก ทำให้รู้ว่าร่างกายกำลังจะเกิดการตกไข่ มีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้
1.ชุดทดสอบการตกไข่แบบจุ่มในถ้วยปัสสาวะ (Strip) จุ่มแถบทดสอบด้านที่มีหัวลูกศรลงในถ้วยปัสสาวะ แล้วจึงอ่านผล
2.ชุดทดสอบการตกไข่แบบหยดปัสสาวะลงบนอุปกรณ์ (Cassette) ใช้หลอดดูดปัสสาวะที่มากับชุดตรวจดูดปัสสาวะจากถ้วยเก็บ แล้วหยดปัสสาวะลงในหลุมทดสอบ แล้วจึงอ่านผล
3.ชุดทดสอบการตกไข่แบบปัสสาวะผ่าน (Midstream) ให้ปัสสาวะผ่านตรงส่วนปลายของแท่งทดสอบ แล้วจึงอ่านผล
ผลทดสอบของการตกไข่จะเป็นบวก ก็ต่อเมื่อสีของเส้น Test มีความเข้มเท่ากันหรือมากกว่าความเข้มของเส้น control ถ้าได้ผลทดสอบเป็นเส้นสีที่จางกว่าเส้น Control จะถือว่าเป็นลบ ซึ่งจะต่างกับผลของชุดทดสอบการตั้งครรภ์ เพียงแค่มีสีของเส้น Test ขึ้นเท่านั้นไม่ว่าจะเข้มหรืออ่อนก็ถือว่าเป็นผลบวก (ตั้งครรภ์) ทั้งสิ้น เมื่อชุดทดสอบการตกไข่แสดงผลเป็นบวก นั่นหมายถึงหลังจากนี้ประมาณ 24-36 ชั่วโมง จะเกิดการตกไข่ (โดยเวลาอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยในชุดทดสอบแต่ละรุ่น) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่หากมีเพศสัมพันธ์ โอกาสการตั้งครรภ์จะสูง
**ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ผลทดสอบที่แม่นยำ ผู้ใช้ควรศึกษาวิธีการใช้งานและปฏิบัติตามคำแนะนำจากเอกสารกำกับเครื่องมือแพทย์ที่แนบมากับชุดทดสอบทุกครั้ง
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ