EXIM BANK เผยปี 2566 ยอดสินเชื่อพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินหน้า ขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำ ผู้ส่งออกหวั่นความผันผวน ประกันความเสี่ยง 1.8 แสนล้านบาท

ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2567 ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) แถลงผลการดำเนินงานปี 2566 ว่า EXIM BANK ปล่อยสินเชื่อใหม่ 70,628 ล้านบาท โดยเป็นกลุ่ม SMEs 10,792 ล้านบาท สินเชื่อคงค้าง 175,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,273 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.32 เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงสุดตั้งแต่เปิดดำเนินงานในปี 2537 นับว่ายอดกว่า 2 ใน 3 เป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุน 120,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 ตอกย้ำบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนา “Green Development Bank”

EXIM BANK มีสินเชื่อยอดคงค้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มเป็น 62,278 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 35.46 ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 33.65 จากปีก่อน ในจำนวนนี้เป็น SMEs 12,644 ล้านบาท โดย EXIM BANK มุ่งพัฒนาเครื่องมือทางการเงินสีเขียว (Green Finance) ด้านการระดมทุนด้วย SME Green Bond มูลค่า 3,500 ล้านบาท และ นวัตกรรมทางการเงิน เช่น สินเชื่อ Solar D-Carbon Financing สินเชื่อ EXIM Green Start เพิ่มสภาพคล่องให้ธุรกิจสีเขียว ผลักดันไทย ให้บรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สานพลังกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ นำพาธุรกิจไทยขยายการค้าการลงทุนไปตลาดต่างประเทศ ณ สิ้นปี 66 มียอดสินเชื่อคงค้าง โครงการระหว่างประเทศ 49,299 ล้านบาท ปล่อยกู้ในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และ ตลาดใหม่ (New Frontiers) 40,675 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.16 ของสินเชื่อคงค้างทั้งหมด

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ยังมีความไม่แน่นอนสูง และสถานการณ์ความไม่สงบในหลายประเทศ EXIM BANK ยังเร่งเสริมสร้างความมั่นใจและภูมิคุ้มกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออก ไทย ผ่านบริการประกันการส่งออกและการลงทุน โดย ณ สิ้นปี 2566 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจ รับประกันการส่งออกและการลงทุน 179,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.03 จากปีก่อน นับว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะเดียวกัน EXIM BANK ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการทางการเงินเพื่อความยั่งยืน โดยมีสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ 8,157 ล้านบาท หรือ NPL Ratio ณ สิ้นปี 66 เท่ากับร้อยละ 4.65 จึงตั้งสำรอง 15,556 ล้านบาท ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 66 EXIM BANK มีกำไรสุทธิ 3,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.27 เมื่อเทียบกับปีก่อน มีกำไรสุทธิเท่ากับ 456 ล้านบาท

EXIM BANK จึงเดินหน้าตอกย้ำบทบาทการเป็น Green Development Bank ด้วยการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินใหม่ ๆ หลายด้าน เช่น Blue Bond สนับสนุนธุรกิจที่อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ผลิตภัณฑ์สนับสนุนการลดคาร์บอน Scope ที่ 1-2-3 เดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 ขยายขอบเขตการให้บริการ เช่น วาณิชธนกิจ นำลูกค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอื่น หนุน SMEs ให้ปรับตัวและแข่งขันได้ในเวทีโลก ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมและเศรษฐกิจดิจิทัล ต่อยอดการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต