แพลตฟอร์ม OnlyFans ที่มีชื่อเสียงในฐานะพื้นที่นำเสนอเนื้อหาทางเพศเคยเกือบสั่งแบนภาพ วิดีโอและเนื้อหาโจ่งครึ่มต่าง ๆ มาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็กลับลำไม่ทำตามแผนงานนี้ ล่าสุดพบว่าแพลตฟอร์มนี้ยังล้มเหลวในการป้องกันอาชญากรรมเด็ก

VOA รายงานเมื่อช่วงเดือน ก.ค. 2024 ว่าแพลตฟอร์ม OnlyFans ที่มีชื่อเสียงในฐานะพื้นที่นำเสนอเนื้อหาทางเพศเคยเกือบสั่งแบนภาพ วิดีโอและเนื้อหาโจ่งครึ่มต่าง ๆ มาครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แต่ก็กลับลำไม่ทำตามแผนงานนี้ ก่อนจะออกมาสัญญาว่า แพลตฟอร์มนี้จะเป็นที่ ๆ เฉพาะผู้ใหญ่เข้าถึงได้และจะดำเนินมาตรการซับซ้อนต่าง ๆ เพื่อสอดส่องดูผู้ใช้งานทุกคน พร้อม ๆ กับการคัดกรองและลบ รวมทั้งรายงานต่อเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายเกี่ยวกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็ก ตามรายงานพิเศษของรอยเตอร์

เคย์ลี แบลร์ ซีอีโอของ OnlyFans กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า “เราเห็นอายุและอัตลักษณ์ของทุกคนในแพลตฟอร์มของเรา” และว่า “ไม่มีเด็กที่ได้รับอนุญาตให้มาใช้งาน ไม่มีใครที่มีอายุต่ำกว่า 18 ในแพลตฟอร์มนี้”

แต่คดีความที่ปรากฏขึ้นมาหลายต่อหลายครั้งพิสูจน์แล้วว่า คำสัญญาของ OnlyFans นั้นไม่เป็นความจริงเลย

ยกตัวอย่าง กรณีของเด็กสาววัย 16 ปีรายหนึ่งในฟลอริดาหายตัวไปในเดือนเมษายนของปี 2023 จนกระทั่ง พ่อและแม่ของเธอตรวจดูโทรศัพท์มือถือของลูกและพบว่า ลูกสาวส่งภาพและคลิปวิดีโอเปลือยของตนเองให้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งมาเป็นเวลาหลายเดือน ก่อนจะแจ้งตำรวจว่า ลูกสาวอาจตกเป็นเหยื่อถูกลักพาตัว

ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบตัวเด็กสาวคนดังกล่าวในสภาพเกือบเปลือยทั้งตัวในบ้านเช่าแห่งหนึ่งพร้อมกับชายผู้ต้องสงสัย ก่อนที่ การสืบสวนจะพบว่า ชายคนดังกล่าวโพสต์คลิปวิดีโอและภาพที่มีเนื้อหาทางเพศของเด็กสาวคนนี้บนแพลตฟอร์ม OnlyFans

จากนั้น ตำรวจแจ้งจับ อีธาน ดิแอซ วัย 22 ปีในข้อหาค้ามนุษย์และข้อหาการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ โดยผู้ต้องหาคนนี้ปฏิเสธไม่รับผิดในทุกกระทง

รอยเตอร์ได้สืบค้นและพบว่า มีผู้ร้องเรียนต่อตำรวจและยื่นเรื่องต่อศาลถึง 30 ครั้งเกี่ยวกับการพบวัสดุสื่อที่มีเนื้อหาการล่วงละเมิดทางเพศเด็กใน OnlyFans ระหว่างช่วงเดือนธันวาคม ปี 2019 และเดือนมิถุนายน ปี 2024

สื่อแห่งนี้ยังตรวจสอบแฟ้มคดีต่าง ๆ และพบว่า มีการอ้างถึงคลิปวิดีโอและภาพของเด็ก ๆ ที่ส่อเนื้อหาทางเพศอย่างโจ่งแจ้งถึงกว่า 200 ชิ้น ขณะที่ เจ้าหน้าที่สืบสวนคดีว่าด้วยการล่วงละเมิดรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ว่า มีกรณีที่คลิปวิดีโอหลายชิ้นของผู้เยาว์รายหนึ่งที่ใช้ในคดีหนึ่งปรากฏอยู่บนแพลตฟอร์ม OnlyFans เป็นเวลานานกว่าปีด้วย

รอยเตอร์รายงานว่า ชายหนุ่มคนหนึ่งบอกกับศาลในรัฐแมสซาชูเซตส์ ตนรู้สึกกลัวทุกครั้งที่ออกนอกบ้านแล้วคิดว่า จะมีคนจำหน้าตัวเองได้หลังพบว่า มีคลิปวิดีโอที่มีเนื้อหาทางเพศระหว่างตนเมื่อตอนอายุ 15 ปีและอาสาสมัครโค้ชฟุตบอลรายหนึ่งถูกนำมาเสนอขายทาง OnlyFans

ผู้ปกครองหลายคนแสดงความรู้สึกโกรธแค้นที่เหตุการณ์ทำนองนี้ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น ชายผู้เป็นพ่อของเด็กหนุ่มวัย 16 ปีรายหนึ่งจากรัฐแคนซัส ที่บอกกับรอยเตอร์ว่า “แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องรับผิดชอบ” และว่า “บาดแผลนี้ไม่มีวันหายขาดได้เลย”

รอยเตอร์ระบุว่า การตรวจสอบคดีทั้งหมด 30 คดีที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มนี้พบว่า กว่าครึ่งหนึ่งจบลงด้วยการจับกุมผู้ต้องหาและมีอย่างน้อย 3 คดีที่จบลงด้วยการพิพากษาลงโทษทางอาญา

ทั้งนี้ คดีส่วนใหญ่ซึ่งรวมถึงกรณีของเด็กสาววัย 16 ด้วย มีผู้ต้องหาเป็นผู้ใหญ่ที่ถูกกล่าวหาว่า ทำการล่าเหยื่อที่เป็นผู้เยาว์มาสร้างเนื้อหาทางเพศโจ่งครึ่มเพื่อนำไปขายทาง OnlyFans ขณะที่ บางคดีเป็นกรณีที่ผู้เยาว์แอบเข้าใช้งานแพลตฟอร์มนี้เพื่อนำเสนอเนื้อหาทางเพศของตนเอง ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนั้น ยังมีกรณีที่เป็นเด็กวัยหัดเดิน (อายุ 1-3 ขวบ) ที่ตกเป็นเหยื่อของคดีประเภทนี้ด้วย โดยตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นชายและใช้แพลตฟอร์มยอดนิยมนี้ส่งภาพการล่วงละเมิดเด็กอายุต่าง ๆ กว่าร้อยภาพไปให้ชายอีกคนหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม สถิติการเกิด 30 คดีที่ว่านี้เป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เมื่อตรวจดูเนื้อหาสื่อที่ล่วงละเมิดทางเพศเด็กซึ่งปรากฏอยู่ใน OnlyFans

รอยเตอร์รายงานว่า ผู้สื่อข่าวอ้างสิทธิ์ทางกฎหมายว่าด้วยบันทึกข้อมูลสาธารณะและสามารถดึงเอกสารที่พูดถึงชื่อ OnlyFans มาได้กว่า 250 ชุดจากสำนักงานกว่า 250 แห่งของหน่วยงานรักษากฎหมายขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ

ขณะที่ เกือบครึ่งหนึ่งของสำนักงานรักษากฎหมายเหล่านี้ยอมเปิดเผยข้อมูลให้ผู้สื่อข่าว หลายแห่งขีดฆ่าข้อมูลออกมากมาย หรือไม่ก็ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลของคดีที่เกี่ยวข้องกับเด็ก โดยอ้างกฎหมายของรัฐที่คุ้มครองอัตลักษณ์ของผู้เยาว์

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง OnlyFans เพื่อขอข้อมูลอย่างละเอียด และโฆษกของบริษัทก็ตอบมาว่า “OnlyFans ภูมิใจในงานที่เราทำอย่างหนักในการติดตาม รายงานและสนับสนุนการสืบสวนและการดำเนินคดีต่อใครก็ตามที่เฝ้าล่วงละเมิดการใช้งานแพลตฟอร์มของเราในทางดังกล่าว”

โฆษกคนนี้ยังกล่าวด้วยว่า แพลตฟอร์มนี้มี “ระบบควบคุมความปลอดภัยอันเข้มงวด” และสมัครใจส่งรายงานกรณีต่าง ๆ ที่ต้องสงสัยว่ามีการนำเสนอเนื้อหาว่าด้วยการล่วงละเมิดทางเพศเด็กไปยัง National Center for Missing & Exploited Children (NCMEC) ซึ่งเป็นองค์กรไม่หวังผลกำไรที่สภาคองเกรสมอบหมายให้ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและแจ้งต่อหน่วยงานรักษากฎหมายในกรณีเกิดเหตุต้องสงสัยขึ้น

แต่ถึงกระนั้น OnlyFans ไม่ตอบคำถามส่วนใหญ่ที่รอยเตอร์ส่งให้และเกี่ยวกับคดีที่มีการอ้างถึงในรายงานข่าวนี้ เช่น คำถามที่ว่า ทำไมถึงมีสื่ออันมีเนื้อหาว่าด้วยการล่วงละเมิดเด็กหลุดรอดจากการเฝ้าระวังไปได้และว่า บริษัททำการเก็บเงินจากบัญชีที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับผู้เยาว์อยู่หรือไม่

ทั้งนี้ ไม่มีคดีใดที่นำไปสู่การฟ้องร้องทางอาญาต่อเว็บไซต์นี้หรือบริษัทแม่ซึ่งก็คือ Fenix International เลย และรอยเตอร์ดำเนินการค้นข้อมูลด้านกฎหมายในสหรัฐฯ และระหว่างประเทศแล้วก็ไม่พบหลักฐานว่า บริษัทนี้เคยถูกฟ้องร้องหรือถูกตัดสินว่า มีความผิดทางอาญาในกรณีเนื้อหาว่าด้วยการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเลย

กฎหมายคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกของสหรัฐฯ คือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ทั้งหลายได้รับการคุ้มครองให้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อกรณีเนื้อหาล่วงละเมิดที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มเป็นผู้โพสต์

แต่ความกังวลในภัยจากโลกออนไลน์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวกับเด็ก ๆ สภาคองเกรสจึงกำลังเร่งยกระดับความเข้มงวดของกฎหมายของประเทศเพื่อทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ต้องมีส่วนรับผิดชอบให้ได้อยู่