กกพ. สรุปตรึงค่าไฟฟ้างวดหน้า พ.ค.-ส.ค. 2567 เท่าเดิม 4.18 บาทต่อหน่วย

กองบรรณาธิการ TCIJ 27 มี.ค. 2567 | อ่านแล้ว 2360 ครั้ง

กกพ. สรุปตรึงค่าไฟฟ้างวดหน้า พ.ค.-ส.ค. 2567 เท่าเดิม 4.18 บาทต่อหน่วย

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติตรึงค่าไฟฟ้างวดหน้า เดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 เท่าเดิมที่ 4.18 บาทต่อหน่วย หลังผ่านการรับฟังความเห็นค่าไฟฟ้า 3 แนวทาง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนประหยัดไฟฟ้า หวังช่วยลดการนำเข้า LNG และลดการเกิดพีคไฟฟ้าหน้าร้อนนี้

27 มี.ค. 2567 Energy News Center รายงานว่านายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ. ในการประชุม วันที่ 27 มี.ค. 2567 มีมติเห็นชอบค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) เรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 คงเดิมที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.7833 บาทต่อหน่วยแล้ว ทำให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เป็น 4.1805 บาทต่อหน่วย เท่ากับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน

ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. ได้เปิดรับฟังความเห็นผลการคำนวณค่า Ft สำหรับเรียกเก็บในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 8 – 22 มี.ค. 2567 โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงความเห็นจำนวนทั้งสิ้น 147 ความเห็น แบ่งเป็นการแสดงความเห็นต่อค่า Ft ตามกรณีศึกษาที่ กกพ. เสนอรวมทั้งสิ้น 61 ความเห็น แสดงความเห็นโดยเสนอค่า Ft อื่นๆ นอกเหนือจาก 3 กรณีศึกษารวม 50 ความเห็น และความเห็นในลักษณะข้อซักถามหรือคำถามอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับค่า Ft จำนวน 36 ความเห็น

สำหรับการเปิดรับฟังความเห็นอัตราค่าไฟฟ้างวดใหม่เดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา แบ่งเป็นการรับฟังความเห็นค่าไฟฟ้า 3 แนวทางคือ 1. ค่าไฟฟ้า 5.43 บาทต่อหน่วย ในกรณีจ่ายคืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ทั้งหมด 99,689 ล้านบาท ภายในงวดเดียว 2.ค่าไฟฟ้า 4.34 บาทต่อหน่วย ในกรณีจ่ายคืนหนี้ กฟผ. 4 งวด ในอัตรางวดละ 14,922 ล้านบาท และ 3.ค่าไฟฟ้าเท่าเดิมที่ 4.18 บาทต่อหน่วย ในกรณีจ่ายคืนหนี้ กฟผ. 7 งวด ในอัตรางวดละ 14,000 ล้านบาท

นายคมกฤช กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้ไฟฟ้าในระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงจำเป็นต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพิ่มขึ้นเพื่อมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นในช่วงฤดูร้อนนี้ สำนักงาน กกพ. ขอเชิญชวนผู้ใช้ไฟฟ้าร่วมกันตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ให้มีสภาพการใช้งานที่ดี เพื่อประหยัดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีสภาพอากาศร้อน รวมทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าได้ง่ายๆ ตามหลัก 5 ป. ได้แก่ 1. ปลด หรือถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อใช้งานเสร็จแล้วเพื่อลดการใช้ไฟฟ้า 2. ปิด หรือดับไฟเมื่อเลิกใช้งาน 3. ปรับ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ 26 องศาเซลเซียส 4. เปลี่ยน มาใช้อุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 และ 5. ปลูกต้นไม้เพิ่มขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิภายในบ้าน ซึ่งทั้ง 5 ป. จะช่วยลดการนำเข้า LNG ลดการเกิดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดรอบใหม่ (New Peak Demand) ในระบบไฟฟ้าและยังช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าเองด้วย

ส่วนกรณีเงื่อนไขค่าไฟฟ้าในงวดปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย. 2567) ที่แบ่งเป็น 2 แบบคือ ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย จะจ่ายค่าไฟฟ้าที่ 3.99 บาทต่อหน่วย และผู้ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วย จะจ่ายค่าไฟฟ้าที่ 4.18 บาทต่อหน่วยนั้น ทางกระทรวงพลังงานชี้แจงว่า มีแนวโน้มที่กระทรวงพลังงานจะดำเนินการให้ค่าไฟฟ้าแบ่งเป็น 2 แบบ สำหรับงวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 เช่นกัน โดยส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย ที่จะให้คิดค่าไฟฟ้าที่ 3.99 บาทต่อหน่วยนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงานจะต้องหาเงินเพื่อมาชดเชยราคาค่าไฟฟ้าให้ประชาชน

ทั้งนี้ทาง กกพ. ได้หารือกับปลัดกระทรวงพลังงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างเตรียมการของบจากรัฐบาล เพื่อช่วยดูแลค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย (งวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567) ให้สามารถจ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากับงวดปัจจุบัน (ม.ค.-เม.ย.) ที่ 3.99 บาทต่อหน่วยต่อไป โดยจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาอนุมัติ ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาอีก 1 เดือนในการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะทำได้ทันก่อนบิลค่าไฟฟ้างวดเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 จะประกาศใช้

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: