เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ หลอกให้คอลสยิวแล้วแบล็กเมล์รีดเงิน

กองบรรณาธิการ TCIJ 7 มี.ค. 2568 | อ่านแล้ว 2735 ครั้ง

เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่ หลอกให้คอลสยิวแล้วแบล็กเมล์รีดเงิน

โฆษกรัฐบาลร่วมมือ ตำรวจไซเบอร์ เร่งกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่หลังจากถูกปราบหนัก “ไม่จบไม่เลิก” โจรเน็ตเปลี่ยนมุกใหม่ หลังกองร้อยปอยเปต. แป๊ก ล่าสุดขโมยโปรไฟล์หนุ่มหล่อ-สาวสวย หลอกให้คอลสยิว สุดเหิมเกริมก๊อปปี้รูปผู้หมวดหญิง หน้าตาดี สตช.เปิดบัญชีทุกแพลตฟอร์มหลอกหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ให้คอลสยิวแล้วแบล็กเมล์รีดเงินสูญนับล้าน

7 มี.ค. 2568 NBT Connext รายงานว่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเปิดเผย ว่าก่อนหน้าที่รัฐบาลจะปฏิบัติการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชนิด“ไม่จบไม่เลิก”ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี หลังจากภารกิจตัดน้ำตัดไฟไม่ส่งน้ำมันจนทำให้มีแก๊งคอลฯถูกจับกลุ่มหลายพันคน ทั้งทางฝั่งตะวันตกและตะวันออกของประเทศ ทำให้ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ การหลอกลวงลักษณะนี้ลดลงไปมากกว่า 80% แต่ปัจุบันแม้จะลดลงแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยัง ได้รับแจ้งความว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกจากจะหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็น DSI เป็น ปปส.หรือเป็นเจ้าหน้าที่ศาล หรือไปรษณีย์บ้าง โดยหลอกว่ามีพัสดุของเหยื่อมียาเสพติด หรือเป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือการฟอกเงินแล้วหลอกลวงให้เหยื่อหลงเชื่อ จนโอนเงินเสียหายกันเป็นจำนวนมาก จนรู้จักกันดีว่า“กองร้อยปอยเปต”

ซึ่งปัจจุบันแก๊งค์เหล่านี้ ยังคงใช้มุกเดิมๆหลอกคนไทยอยู่ แต่ปัจจุบันก็เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบ“แก๊งค์ คอลสยิว ”โดยคนร้ายเหล่านี้จะเข้าไปในโซเชียลมีเดียทั้ง TikTok Instagram หรือ Facebook และก๊อปปี้รูปภาพ คลิปวิดีโอหรือกิจกรรมต่างๆของเจ้าของ แล้วนำมาเปิด บัญชีใหม่ เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายที่มีรูปร่างหน้าตาดี จากนั้นก็จะอินบ็อกซ์เข้าไปพูดคุยกับเหยื่อและขอแลก LINE หรือ คุยผ่าน Messenger ในเฟสบุ๊ก จนกระทั่งเหยื่อตายใจก็จะใช้วิธีการหว่านล้อมเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อเช่นชักชวน ลงทุนเล่นการพนันหรือ ชวนอาบน้ำด้วยกัน หรือไม่ก็เปลือยกาย แล้วถ่ายอัดคลิปวิดีโอไว้ จากนั้น ก็จะแสดงตนเป็นคนร้ายทันที เพื่อแบคเมล์เรียกเงิน

ทั้งนี้ตนและฝ่ายสืบสวนตำรวจไซเบอร์ได้วางแผนจับกุมหลายครั้งในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยกลุ่มแก๊งค์คอลฯดังกล่าวนี้ ล่าสุดได้ก๊อปปี้รูปและคลิปวีดีโอกิจกรรมต่างๆของตำรวจหญิง ยศ ร.ต.ท.คนหนึ่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีรูปร่างหน้าตาดี ไปหลอกเหยื่อจำนวนมาก ซึ่งได้สอบถามพร้อมกับส่งข้อมูลไปที่ร.ต.ท.หญิง คนดังกล่าวซึ่งยืนยันว่าร.ต.ท.หญิงคนดังกล่าวมีตัวตนจริง แต่ในบัญชีอื่นๆแจ้งว่า ถูกก๊อบปี้รูปถ่ายของ ผู้หมวดหญิงคนนี้ไปเปิดมากกว่า 10 บัญชี ทั้งทาง Facebook TikTok Instagram และ Line ซึ่งการใช้โพไฟน์ของตำรวจหญิง ก็เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเหยื่อว่าไม่ใช่แก๊งค์คอลฯ แน่นอน ซึ่งหลังจากนั้นคนร้ายกลุ่มนี้ก็นำโพไฟน์ของผู้หมวดหญิง ไปหลอกสนทนากับเหยื่อโดยจะใช้วิธีการ อินบ็อกซ์ หรือกดไลท์ ตามด้วยคำหวานทำให้เหยื่อรู้สึกดี และพูดจาหวานล้อม หลอกให้เหยื่อหลงตายใจอย่างใจเย็น จากนั้นคนร้ายก็จะพยายามชักชวน ให้ช่วยสนับสนุนเนื่องจากเป็นตำรวจเงินเดือนน้อย มีภารกิจเช่นจะนำเงินไปซื้ออาวุธปืน จากนั้นก็จะชวนสนทนาในเรื่องเพศ

ซึ่งหากเหยื่อหลงกล ก็เปลื้องผ้าหรือทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คนร้ายก็จะก๊อปปี้ หน้าจอหรืออัดวิดีโอไว้แล้วนำมาแบล๊คเมล์ เรียกเงินตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน ซึ่งคนร้ายกลุ่มดังกล่าวจะใช้วิธีดังกล่าวอย่างต่อเนื่องทำให้เหยื่อจำนวนมากไม่กล้าแจ้งความเนื่องจาก จำนวนมากกลัวกระทบต่อครอบครัวและจำนวนไม่น้อยเป็นบุคคนที่มีชื่อเสียงในสังคม ทั้งนี้ซึ่งการกระทำผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้เป็นความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่น, กรรโชกทรัพย์, รีดเอาทรัพย์ และเผยแพร่สื่อลามาก ตามกฎหมายอาญา มาตรา 309 337 338 และ 287 อีกทั้ง ยังมีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.น.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 มีโทษทั้งจำทั้งปรับตั้งแต่ 3 -10 ปี

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: