ชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เผยสวนส้มในพื้นที่เริ่มรื้อท่อน้ำแล้ว หลังมีประกาศให้ทำการรื้อถอนท่อพีวีซีที่วางท่อดักน้ำในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ผู้ประกอบการสวนส้มกับเกษตรกรในพื้นที่มีปัญหาพิพาทกันมาตั้งแต่ปี 2559

19 ก.พ. 2568 สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2568 มีการประชุมการแก้ไขปัญหาการใช้น้ำในพื้นที่ป่าต้นน้ำแม่สาว ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยมีผู้เกี่ยวข้อง อาทิ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก อ.ฝาง ผู้ประกอบการสวนส้มกับเกษตรกรในพื้นที่ เกี่ยวกับปัญหาพิพาทมาตั้งแต่ปี 2559 เรื่องการใช้น้ำกรณีการรื้อถอนท่อพีวีซี ที่กระทำผิดกฎหมายในเขตอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก อันสืบเนื่องมาจากคดีที่ศาลปกครอง จ.เชียงใหม่ พิพากษา ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทำการรื้อถอนท่อออกจากเขตอุทยานฯ หลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดภายใน 30 วัน ตั้งแต่ปี 2567 ล่าสุดอุทยานฯ ได้ปิดประกาศหนังสือให้ผู้ประกอบการสวนส้มในเขตอุทยานฯ ให้ทำการรื้อถอนท่อพีวีซีที่วางท่อดักน้ำในเขตอุทยานฯ ที่ผิดกฎหมาย มีกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 3 – 18 ก.พ. 2568 หลังจากนั้นถ้ายังไม่มีการรื้อถอนท่อออกจากเขตอุทยานฯ ทางเจ้าที่จะเข้าทำการรื้อถอนท่อออกเอง โดยจะต้องคิดค่ารื้อถอนจากเจ้าของสวนส้ม

ชาวบ้านในพื้นที่ ต.แม่สาว อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ แจ้งข่าวว่า วันนี้ (19 ก.พ.) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ได้เข้าไปสำรวจพื้นที่ห้วยแม่ฮ่างและห้วยแม่กืม ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสายหลักที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนตำบลแม่สาว เพื่อดูความเรียบร้อยว่าตามประกาศอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก ให้สวนส้มในพื้นที่รื้อถอนท่อออกจากเขตอุทยานฯ หรือไม่

ปรากฎว่าเจ้าของสวนส้มได้ทำการรื้อถอนออกเกือบหมด แต่ยังคงค้างบางส่วนจำนวนเล็กน้อย เนื่องจากเป็นลำห้วยที่คตเคี้ยว ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้ควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนการขนย้ายคงต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน เพราะอยู่ในเขตป่าไม่ค่อยสะดวกในการขนย้าย

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ รายหนึ่งที่ขอสงวนนาม ระบุว่าในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) เป้าหมายต่อไปคือห้วยแม่สาว โดยเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปสำรวจความเรียบร้อยว่าสวนส้มมีการรื้อถอนท่อออกหรือยัง หากสวนส้มรายใดรื้อออกไปแล้ว ก็ไม่สามารถนำมาใส่ใหม่ได้ จะต้องถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด สวนส้มเจ้าไหนยังไม่ได้รื้อ เจ้าหน้าที่จะรื้อเองและคิดค่ารื้อถอนจากเจ้าของท่อรายนั้นไปต่อไป