เครือข่ายแพทย์ นักวิชาการ ห่วงเด็กตกเป็นเหยื่อบุหรี่ไฟฟ้า เสพนิโคตินรูปแบบใหม่ ทำลายปอด สมอง หนุน นายกรัฐมนตรี คงมาตรการห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า และเร่งปราบเด็ดขาด จริงจัง ต่อเนื่อง จี้สภาฯ คว่ำรายงาน กมธ.บุหรี่ไฟฟ้า พบเบื้องหลังเชื่อมโยงบริษัทบุหรี่
เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2568 ในการประชุมมหกรรมวิชาการฟ้าใส ครั้งที่ 15 ที่ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ สมาพันธ์เครือข่ายแห่งชาติเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ ได้จัด การเสวนาสื่อ เรื่อง The “New” Nicotine : นโยบายบุหรี่ไฟฟ้า เสียงจากนักวิชาการสู่รัฐสภา
รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา อายุรแพทย์โรคปอด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ยาสูบมีรูปแบบต่างๆ มากมาย ซึ่งทั้งหมดจัดว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับการเสพติดสารนิโคติน โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่มีรูปร่างหน้าตามาในหลากหลายรูปแบบ รวมทั้งมีรสชาติที่มีกลิ่นหอม มากมายกว่า 16,000 รสชาติ เพื่ออำพรางสารเคมีอันตรายที่ซ่อนอยู่ ซึ่งในไอบุหรี่ไฟฟ้ายังมีสารที่ไม่เป็นที่รู้จักทางการแพทย์อีกกว่า 2,000 ชนิด ที่อันตรายคือพบมีการนำยาเสพติดชนิดต่างๆ มาผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อสูบ เช่น พอตเค พอตซอมบี้ ซึ่งพวกนี้อันตรายถึงชีวิต
“พบผู้ป่วยมีอาการของปอดอักเสบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนอายุน้อย ซึ่งพบประวัติเชื่อมโยงกับการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มักมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ออกซิเจนในเลือดต่ำ บางรายต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และรักษาในไอซียู เมื่อป่วยแล้วปอดจะไม่สามารถฟื้นกลับมาสู่สภาพเดิมเต็ม 100% อาจจะมีอาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะที่น่าเป็นห่วงคือ การเกิดภาวะปอดอักเสบในเด็กและวัยรุ่น” รศ.นพ.สุทัศน์ กล่าว
ผศ.ดร.ศรีรัช ลาภใหญ่ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าที่ใช้กลยุทธ์การตลาดล่าเหยื่อหรือ predatory marketing ที่ต้องการเจาะกลุ่มเปราะบางในสังคม คือ กลุ่มเด็กวัยประถมและมัธยม ด้วยรูปลักษณ์บุหรี่ไฟฟ้าที่น่ารักใช้ตัวการ์ตูนที่เด็กรู้จักดีเป็นแรงดึงดูด ติดใจด้วยรสชาติฟรุตตี้แคนดี้ กลิ่นหอมเป็นขนม ชื่อรสชาติชวนจินตนาการ และสร้างแรงดึงดูดให้อยากทดลอง เช่น รสฝรั่งกีวี่สีชมพู รสมะม่วงพีชเมลบ้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างแรงจูงใจด้วยการตลาดที่เลียนแบบของเล่นของสะสมจนแยกไม่ออกว่าอะไรคือของเล่นจริง อะไรคือพอดตุ๊กตา ซ้ำยังใช้นิโคตินแบบใหม่ salt nic ที่ทำให้ไม่ระคายคอ สูบง่ายสำหรับเด็กและมือใหม่ เข้าถึงง่ายด้วยราคา 99 บาท และบริการส่งถึงบ้าน
“ซึ่งพบร้านขายบุหรี่ไฟฟ้าเกลื่อนทั้งออนไลน์และรอบโรงเรียนจนครูร้องทุกข์ ตลาดนัดกลางคืนหลายแห่งก็เปิดแผงบุหรี่ไฟฟ้า สังคมไทยถึงเวลาแล้วที่ทุกคน ไม่ใช่แค่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ ต้องตระหนักและมองเห็นภัยจากสิ่งเสพติดที่อาจทำลายลูกหลานไทยในอนาคต” ผศ.ดร.ศรีรัช กล่าว
รศ.ดร.พญ.เริงฤดี ปธานวนิช คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า จากการสำรวจล่าสุดเมื่อปี 2565 พบเด็กมัธยมต้นของไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 17.6% หรือประมาณ 400,000 คน ซึ่งน่าเป็นห่วง แต่อีกด้าน กรรมาธิการวิสามัญในสภาผู้แทนราษฎรชุดหนึ่ง กลับจะเสนอยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าและห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย ซึ่งสวนทางกับสถานการณ์การระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนไทย ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่ามีกรรมาธิการฯ อย่างน้อย 2 คนใน กมธ.ชุดนี้มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบริษัทบุหรี่ข้ามชาติที่ตั้งเป้าหมายจะเปิดขายบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย จึงทำให้เนื้อหาของรายงานเล่มนี้มีความบิดเบี้ยว ผิดเพี้ยนไปจากข้อเท็จจริง และมีการสอดไส้ด้วยข้อมูลจากฝั่งธุรกิจยาสูบจำนวนมาก แม้จะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เข้าให้ข้อมูล แต่ กมธ.กลับไม่ให้ความสำคัญ เสมือนมีธงไว้อยู่แล้วว่าต้องการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย จึงอยากให้สภาฯ พิจารณารายงานฉบับนี้อย่างระมัดระวัง
“ทั้งนี้ รายงานของ กมธ.ชุดนี้มีปัญหาอย่างน้อย 4 ประการ ได้แก่ 1) กรรมาธิการฯ บางคนมีความเชื่อมโยงกับธุรกิจบุหรี่ ซึ่งขัดต่อหลักการควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลกที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคี 2) รายงานมีความโน้มเอียงที่จะสนับสนุนบุหรี่ไฟฟ้า จาก 2 ใน 3 แนวทางต้องการให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมาย และมีกรรมาธิการฯ บางคนออกมาให้ข่าวสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง 3) ข้อสนับสนุนให้บุหรี่ไฟฟ้าถูกกฎหมายไม่มีการอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แต่พบว่าข้อมูลบางส่วนอ้างอิงมาจากเว็บไซต์ของบริษัทบุหรี่ หรือองค์กรที่รับทุนจากบริษัทบุหรี่ และ 4) ไม่พบข้อมูล หรือแนวทาง ข้อเสนอแนะการจัดการ ปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าผิดกฎหมายเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งที่ควรจะเป็นประเด็นหลักที่ทาง กมธ.ชุดนี้ควรจะต้องพิจารณา” รศ.ดร.พญ.เริงฤดี กล่าว
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ