จับตา: สหรัฐฯ ครองแชมป์กองทัพแข็งแกร่งที่สุดในโลกปี 2025

กองบรรณาธิการ TCIJ 21 ธ.ค. 2568 | อ่านแล้ว 62 ครั้ง


สหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเทศที่มีกำลังทางทหารแข็งแกร่งที่สุดในโลกประจำปี 2025 ตามการจัดอันดับของ Global Firepower Index ที่ประเมินกองทัพเกือบ 150 ประเทศทั่วโลก โดยวิเคราะห์กว่า 60 ปัจจัยต่างๆ รวมถึงกำลังพล เครื่องบินรบ กองเรือ รถถัง งบประมาณป้องกันประเทศ และเทคโนโลยีทางทหาร

อันดับ ประเทศ คะแนน PowerIndex กำลังพล เครื่องบิน รถถัง งบประมาณป้องกันประเทศ
1 สหรัฐอเมริกา 0.0744 2.1 ล้านคน 13,000+ ลำ 4,640 คัน $895,000 ล้าน
2 รัสเซีย 0.0788 3.5 ล้านคน 4,292 ลำ 5,750 คัน $126,000 ล้าน
3 จีน 0.0788 3.1 ล้านคน 3,309 ลำ 6,800 คัน $266,000 ล้าน
4 อินเดีย 0.1184 5.1 ล้านคน 2,229 ลำ 4,201 คัน $75,000 ล้าน
5 เกาหลีใต้ 0.1656 3.8 ล้านคน 1,592 ลำ 2,236 คัน $50,000 ล้าน
6 สหราชอาณาจักร 0.1785 1.1 ล้านคน 631 ลำ 227 คัน $71,500 ล้าน
7 ฝรั่งเศส 0.1878 376,000 คน 976 ลำ 215 คัน $63,700 ล้าน
8 ญี่ปุ่น 0.1839 328,000 คน 1,443 ลำ 521 คัน $57,000 ล้าน
9 ตุรกี 0.1902 883,000 คน 1,083 ลำ 2,238 คัน $20,000 ล้าน
10 อิตาลี 0.2164 289,000 คน 729 ลำ 200 คัน $30,000 ล้าน

หมายเหตุ: คะแนน PowerIndex ที่ต่ำกว่าหมายถึงความแข็งแกร่งทางทหารที่สูงกว่า

ที่มา: Global Firepower Index 2025

สหรัฐฯ นำโด่ดด้วยงบกลาโหม 895,000 ล้านดอลลาร์

สหรัฐอเมริกาได้คะแนน PowerIndex 0.0744 ซึ่งถือเป็นคะแนนต่ำสุดและหมายถึงความแข็งแกร่งสูงสุด โดยมีงบประมาณป้องกันประเทศสูงถึง 895,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างเหนือชั้น กองทัพสหรัฐมีกำลังพลรวม 2.1 ล้านคน เครื่องบินรบกว่า 13,000 ลำ รวมถึงเครื่องบินล่องหนรุ่นล่าสุดอย่าง F-22 Raptor และ F-35 Lightning II

จุดแข็งที่โดดเด่นของสหรัฐฯ คือกองทัพเรือที่มีเรือบรรทุกเครื่องบินระบบนิวเคลียร์ถึง 11 ลำ ซึ่งไม่มีประเทศใดเทียบได้ พร้อมฐานทัพในต่างประเทศกว่า 750 แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ยังนำหน้าด้านสงครามไซเบอร์ ระบบป้องกันขีปนาวุธ และการทหารในอวกาศ ทำให้สหรัฐฯ คงตำแหน่งผู้นำทางทหารโลกอย่างไม่มีใครเทียบได้

รัสเซียและจีนแข่งขันอันดับ 2

รัสเซียและจีนต่างได้คะแนน PowerIndex เท่ากันที่ 0.0788 โดยรัสเซียมีจุดแข็งด้านจำนวนรถถังที่มากที่สุดในโลกถึง 5,750 คัน และคลังอาวุธนิวเคลียร์ใหญ่ที่สุดด้วยหัวรบกว่า 5,900 หัว กองทัพรัสเซียมีกำลังพลถึง 3.5 ล้านคน และกำลังดำเนินโครงการปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ทันสมัย 70% ภายในปี 2030 รวมถึงการพัฒนาเครื่องบินรบล่องหน Su-57 และกองเรือดำน้ำที่ทรงพลัง

ส่วนจีนมีกองทัพเรือใหญ่ที่สุดในโลกและรถถังมากที่สุดถึง 6,800 คัน ด้วยงบประมาณ 266,000 ล้านดอลลาร์ จีนลงทุนอย่างหนักในขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ปัญญาประดิษฐ์ สงครามไซเบอร์ และเครื่องบินรบล่องหนอย่าง J-20 และ J-31 การขยายอิทธิพลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกและกองทัพเรือที่แข็งแกร่งขึ้นทำให้จีนอยู่ในอันดับ 3 อันดับแรกของโลก

อินเดียขึ้นอันดับ 4 ด้วยกำลังพลมหาศาล

อินเดียครองอันดับ 4 ด้วยคะแนน 0.1184 โดดเด่นด้วยกำลังพลใช้งานจริงมากที่สุดในโลกถึง 5.1 ล้านคน อินเดียมีโครงการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ภายในประเทศผ่านนโยบาย "Make in India" รวมถึงเครื่องบินรบ Tejas และรถถัง Arjun ที่พัฒนาเองภายในประเทศ อินเดียมีคลังอาวุธนิวเคลียร์กว่า 160 หัวรบและกำลังลงทุนในกองทัพเรือที่สามารถปฏิบัติการในน่านน้ำลึกเพื่อรักษาความมั่นคงในมหาสมุทรอินเดีย

เกาหลีใต้นำเทคโนโลยีชั้นสูงในเอเชีย

เกาหลีใต้อยู่อันดับ 5 ด้วยคะแนน 0.1656 เป็นหนึ่งในกองทัพที่มีเทคโนโลยีทางทหารสูงที่สุดในเอเชีย เนื่องจากตำแหน่งที่ใกล้เกาหลีเหนือทำให้เกาหลีใต้ลงทุนอย่างหนักในระบบป้องกันที่ทันสมัย รวมถึงรถถัง K2 Black Panther เครื่องบินรบ F-35 และระบบป้องกันขีปนาวุธที่ล้ำสมัย หน่วยสงครามไซเบอร์และเทคโนโลยีการเฝ้าระวังระดับสูงทำให้เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในกองทัพที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาค

มหาอำนาจยุโรป UK ฝรั่งเศส และอิตาลี

สหราชอาณาจักรอยู่อันดับ 6 ด้วยกำลังพล 1.1 ล้านคนและงบประมาณ 71,500 ล้านดอลลาร์ โดดเด่นด้วยเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำและเรือดำน้ำระบบนิวเคลียร์ พร้อมเครื่องบินรบ Eurofighter Typhoon และ F-35B Lightning II

ฝรั่งเศสอยู่อันดับ 7 มีเครื่องบิน Rafale เรือดำน้ำนิวเคลียร์ และเรือบรรทุกเครื่องบิน Charles de Gaulle ฝรั่งเศสกำลังนำโครงการ SCORPION เพื่อดิจิทัลไลซ์สนามรบอย่างเต็มรูปแบบ

ญี่ปุ่นอยู่อันดับ 8 แม้จะไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ แต่มีกองทัพที่ใช้เทคโนโลยีสูงที่สุดในโลก มีเครื่องบิน F-35A เรือพิฆาต Aegis และความสามารถต่อต้านเรือดำน้ำที่เหนือกว่า พร้อมพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับสหรัฐฯ

ตุรกีและอิตาลีติด 10 อันดับแรก

ตุรกีอยู่อันดับ 9 โดดเด่นด้วยอุตสาหกรรมป้องกันประเทศภายในประเทศที่ผลิตโดรน Bayraktar TB2 ซึ่งพิสูจน์ประสิทธิภาพในสงครามสมัยใหม่ แม้จะมีงบประมาณเพียง 20,000 ล้านดอลลาร์ แต่ตุรกีมีกำลังพล 883,000 คนและรถถังถึง 2,238 คัน พร้อมกำลังขยายอิทธิพลในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

อิตาลีปิดท้ายที่อันดับ 10 แม้กองทัพจะไม่ใหญ่ที่สุด แต่มีความสมดุลและทันสมัยมาก เป็นสมาชิก NATO ที่มีเครื่องบินรบ F-35 Eurofighter Typhoon และเรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำ พร้อมมุ่งเน้นด้านการป้องกันไซเบอร์และภารกิจรักษาสันติภาพระหว่างประเทศ

ปัจจัยใหม่กำหนดพลังทางทหารโลก

การจัดอันดับในปี 2025 ไม่ได้วัดจากจำนวนทหารหรือรถถังเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น โดรนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก เครื่องบินล่องหน และระบบป้องกันในอวกาศ สงครามไซเบอร์กลายเป็นสนามรบใหม่ที่สำคัญไม่แพ้การรบทางบก ทะเล และอากาศ การควบคุมดาวเทียม ความปลอดภัยไซเบอร์ และระบบข่าวกรองอิเล็กทรอนิกส์มีความสำคัญพอๆ กับอาวุธยุทโธปกรณ์แบบเดิม

พันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง NATO, QUAD และ AUKUS ช่วยเพิ่มพลังทางทหารผ่านการรวมทรัพยากร การฝึกร่วมกัน และระบบรักษาความมั่นคงร่วม ทำให้ประเทศเล็กที่มีพันธมิตรแข็งแกร่งสามารถมีอำนาจเหนือขนาดจริงได้ นอกจากนี้ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและงบประมาณป้องกันประเทศที่เพียงพอเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาการพัฒนาอาวุธอย่างต่อเนื่องและความพร้อมในการรบที่ยืดเยื้อ

แนวโน้มสำคัญในปี 2025 คือการเพิ่มขึ้นของมหาอำนาจระดับภูมิภาค เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ และตุรกี ที่กำลังปรับปรุงกองทัพอย่างรวดเร็วผ่านการผลิตอาวุธเองและเพิ่มงบประมาณป้องกันประเทศ ประเทศต่างๆ ต่างมุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าและเสริมสร้างอธิปไตย ในขณะที่กองทัพขนาดเล็กแต่มีเทคโนโลยีสูงและพันธมิตรที่แข็งแกร่งสามารถเอาชนะกองทัพขนาดใหญ่ได้ พิสูจน์ว่าขนาดไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่สำคัญอีกต่อไป

ที่มา:
Top 10 Most Powerful Countries in the World 2025 by Military Strength (Global Firepower Index 2025, 11 October 2025) 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: