สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ National Agriculture and Forestry Research Institute (NAFRI) จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมมือด้านวิชาการและวิจัย เพื่อความยั่งยืนด้านเกษตรในภูมิภาค
เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ National Agriculture and Forestry Research Institute (NAFRI) จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ณ อาคารไบโอเทค อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี นับเป็นหมุดหมายสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือด้านวิชาการและวิจัยสาขาการเกษตรและการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในระดับภูมิภาค
ภายในพิธีลงนาม ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการไบโอเทค สวทช. กล่าวต้อนรับ และ Dr. Phetmanyseng Xangsayasane, Director General of NAFRI กล่าวเปิดงาน นอกจากนี้ Mr. Toulakham Phomsengsavanh, Counsellor (Economic and Commercial) ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีในความร่วมมือครั้งนี้ด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการไบโอเทค สวทช. กล่าวว่า NAFRI ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรหลักที่สำคัญของไบโอเทค สวทช. ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งในระดับการแลกเปลี่ยนบุคลากรวิจัย และโครงการความร่วมมือระดับนานาชาติ นำไปสู่การขยายผลประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาค เช่น โครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโดยเทคโนโลยีเครื่องหมายโมเลกุลสำหรับประเทศลุ่มน้ำโขง ที่ สวทช. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ NAFRI ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการนำเทคโนโลยีเครื่องหมายโมเลกุล (Marker Assisted Selection) มาใช้ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวในปัจจุบันของประเทศในเขตลุ่มน้ำโขง โครงการประสบผลสำเร็จทั้งเรื่องการพัฒนาศักยภาพนักวิจัยด้านการปรับปรุงพันธุ์จาก NAFRI รวมถึงสามารถพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะตรงตามความต้องการของ สปป.ลาว เช่น ข้าวเหนียวหอมท่าดอกคำ 1 ข้าวเจ้าเซบั้งไฟ 2 และเซบั้งไฟ 3 และหอมเซบั้งไฟ 4 เป็นต้น
นอกจากนี้ ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมาความร่วมมือระหว่าง 2 สถาบันยังได้ขยายจากงานวิจัยด้านข้าวไปสู่งานวิจัยด้านมันสำปะหลัง และความหลากหลายทางชีวภาพ โดย MOU ฉบับใหม่นี้จะครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี เพื่อสานต่อความร่วมมือเดิมและขยายผลไปสู่สาขาอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ เช่น การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และสุขภาพสัตว์
Dr. Phetmanyseng Xangsayasane ผู้อำนวยการ NAFRI กล่าวว่า จากความร่วมมือระหว่าง NAFRI และไบโอเทค สวทช. ที่ผ่านมา นำมาสู่ความสำเร็จในการพัฒนาข้าวเหนียว 10 สายพันธุ์ และข้าวเจ้า 4 สายพันธุ์ ที่ทนทานต่อน้ำท่วมและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ โดยนอกเหนือจากข้าวแล้ว การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ยังจะขยายไปยังความร่วมมืออื่น ๆ ที่กว้างขวางมากขึ้น ทั้งเรื่องการวิจัยเห็ด ความหลากหลายทางชีวภาพ และวัคซีนสัตว์
ด้าน Mr. Toulakham Phomsengsavanh, Counsellor (Economic and Commercial) ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย กล่าวเสริมว่า การลงนามความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงเป้าหมายในการพัฒนาวิทยาศาสตร์การเกษตรร่วมกันอย่างยั่งยืน และจะช่วยส่งเสริมขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
การลงนาม MOU ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผนึกกำลังทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนในภาคเกษตรของภูมิภาค ซึ่งจะนำมาซึ่งความมั่นคงในการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืนในระยะยาวต่อไป
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ